ปีนี้ กรีนพีซและเหล่านักวิทยาศาสตร์ได้เริ่มการเดินทางสำรวจที่ยาวนานที่สุด และไกลที่สุดครั้งหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพื่อสำรวจทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์ของมหาสมุทรโลกตั้งแต่ดินแดนขั้วโลกเหนือจรดดินแดนขั้วโลกใต้ รวมถึงหาหลักฐานว่าวิกฤตสภาพภูมิอากาศไปจนถึงมลพิษพลาสติก การทำเหมืองแร่ในทะเล และการประมงเกินขนาดนั้นเป็นส่วนหนึ่งของภัยคุกคามมหาสมุทรของเรา และยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน
การสำรวจครั้งนี้ ประกอบด้วย นักกิจกรรมของกรีนพีซและกลุ่มนักวิทยาศาสตร์อิสระ จำนวน 5 กลุ่มจากมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา เวลมิงตัน ซึ่งข้อมูลที่ได้จะนำมาใช้สนับสนุนข้อเสนอ “สนธิสัญญาทะเลหลวง” (Global Ocean Treaty) ต่อองค์การสหประชาชาติให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น และมีการกำหนด “เขตคุ้มครองระบบนิเวศทางทะเล” ซึ่งจะช่วยเบิกทางให้กับแผนการฟื้นฟูระบบนิเวศมหาสมุทร ที่จะสามารถช่วยปกป้องพื้นที่ 1 ใน 3 ส่วนของมหาสมุทรได้ภายในปี พ.ศ.2573
นอกเหนือจากงานสำรวจ ระหว่างการเดินทางเราได้เก็บภาพความมหัศจรรย์ของโลกใต้ท้องทะเลมาฝากทุกคนด้วย เพื่อเป็นสาส์นส่งต่อไปให้ทุกคนเห็นว่า มหาสมุทรของเรานั้นเต็มไปด้วยความสวยงามและแสนเปราะบางมากขนาดไหน รวมถึงภาพการทำงานของบรรดานักวิทยาศาสตร์ที่เดินทางไปพร้อมกับเรือ เพราะ ถึงแม้ดินแดนเหล่านี้จะอยู่ห่างไกลจากเรา แต่เบื้องหลังภาพทุกภาพล้วนมีเรื่องราวที่เชื่อมโยงมาถึงเราและทุกชีวิตบนโลกใบนี้
งานสำรวจวิจัย ณ มหาสมุทรอาร์กติก
เป้าหมายของการศึกษาครั้งนี้ คือศึกษาถึงผลกระทบของการละลายตัวของน้ำแข็งต่อสิ่งมีชีวิต ที่อาศัยอยู่ในอาร์กติก รวมถึงผลกระทบต่อการอพยพของสัตว์ที่เปลี่ยนแปลงไปส่งผลอย่างไรต่อห่วงโซ่อาหาร
จากอุณหภูมิที่สูงขึ้นในทวีปอาร์กติกและภาวะธารน้ำแข็งในทะเลละลายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบนิเวศโดยรอบ เพื่อให้เข้าใจถึงความเชื่อมโยงของผลกระทบดังกล่าวนี้ให้มากขึ้น ทีมนักวิจัยและกรีนพีซได้เก็บตัวอย่างแท่งน้ำแข็งและตัวอย่างน้ำที่มีสาหร่ายเจริญเติบโตอยู่ และตรวจสอบระดับค่า pH ระดับความเค็มและการเปลี่ยนไปของอุณหภูมิ เพื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของมหาสมุทรอาร์กติกกับนักวิจัยนานาชาติกลุ่มอื่น
มหาสมุทรที่อุดมสมบูรณ์ จะช่วยให้เราผ่านพ้นวิกฤตสภาพภูมิอากาศไปได้ มหาสมุทรที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพจะมีประสิทธิภาพในการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ได้จำนวนมหาศาล นี่จึงเป็นสาเหตุที่เราต้องปกป้องมหาสมุทรโลกไว้ให้ได้ทัน ก่อนที่ความสูญเสียที่เลวร้ายจะเกิดขึ้น
ภารกิจถัดไปหลังการสำรวจมหาสมุทรอาร์กติกแล้ว คือการเดินทางต่อไปยัง ดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า กระดูกสันหลังของมหาสมุทรแอตแลนติก หรือที่รู้จักในชื่อ ลอสต์ ซิตี้ (Lost city) เทือกเขาใต้น้ำแห่งนี้มีโครงสร้างจากธรรมชาติที่น่าตื่นตา และยังเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตที่โดดเด่นต่างจากที่อื่น
ปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าพื้นที่แห่งนี้จะเป็นกุญแจสำคัญ ไปสู่การไขความลับทางวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบนโลก อย่างไรก็ดี ลอสต์ ซิตี้กำลังถูกคุกคามจากการทำเหมืองแร่ในทะเล
ด้วยวิกฤตหลายๆด้านที่กำลังคุกคามมหาสมุทร เราจึงจำเป็นต้องปกป้องมหาสมุทรโลกอย่างน้อย 1 ใน 3 ส่วนภายในปี พ.ศ.2573