ระหว่างที่ ‘ณัฐสิทธิ์ ศรีนุรักษ์’ กำลังศึกษาระดับปริญญาเอกสาขาวิชาการออกแบบชุมชนเมือง (Urban Design) ที่มหาวิทยาลัยซากะ ประเทศญี่ปุ่น บ้านเกิดของเขากำลังต้องการความช่วยเหลือ เนื่องจากกำลังจะมีโครงการเหมืองถ่านหินเกิดขึ้นในอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่

แม้ว่านักวิชาการด้านผังเมืองผู้นี้จะเกิดในเวียงเชียงใหม่ แต่สิ่งที่กำลังจะเกิดกับ ‘อมก๋อย’ ย่อมส่งผลเชื่อมโยงมาถึงเชียงดาว แม่แตง แม่ริม ช้างเผือก ช้างคลาน ช้างม่อย สันผีเสื้อ สันกำแพง หางดง ดอยสะเก็ด จอมทอง ฯลฯ และข้อเท็จจริงที่สำคัญอีกข้อคือผลกระทบจากโครงการเหมืองถ่านหินย่อมเดินทางไกลไปเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ เหมือนการกระพือปีกของผีเสื้อที่ส่งผลสะเทือนไปถึงดวงดาว

“ผมสนใจเรื่องภัยพิบัติและปัญหาฝุ่นควันที่เกิดในเชียงใหม่ เพราะผมเกิดและอาศัยที่เชียงใหม่ เมืองของเรามีดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่น่าตกใจ แต่ข้อมูลดัชนีคุณภาพอากาศในเมียนมาน่าตกใจยิ่งกว่า ผมตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ปรากฎว่ามีการเผาในที่โล่ง ประกอบกับค่าความกดอากาศสูงในฤดูหนาว แต่ปัจจัยสำคัญจริงๆ คือเมืองนั้นในเมียนมาเป็นที่ตั้งของเหมืองถ่านหินเพื่อส่งไปจีน

“ถ้าสิ่งนี้เกิดในจังหวัดเชียงใหม่ล่ะ เพียงแค่คิดผมก็ขนลุกแล้วครับ ขนาดไม่มีเรื่องถ่านหิน เรายังมีคุณภาพอากาศที่เลวร้ายขนาดนี้ ถ้าเรามีถ่านหินเข้ามาผสมโรง ผมคาดว่าคุณภาพอากาศของเราจะหนักหนากว่านี้มาก ดูพม่าเป็นบทเรียนได้ เขาไม่สามารถจัดการได้เลย เนื่องจากเป็นรัฐที่ยากต่อการควบคุม ช่วงผมเรียนที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นช่วงที่แคมเปญต้านถ่านหินของ Change.org ถูกนำเสนอ ผมรู้สึกว่ามันเป็นลมหายใจในอนาคตของผม ลมหายใจในอนาคตของเมือง มันส่งผลกระทบหลายอย่าง ผมร่วมลงชื่อในแคมเปญนั้นเพื่อแสดงออกว่า ‘ไม่เอาถ่านหิน’” ดร.ณัฐสิทธิ์ เล่า

เช่นเดียวกับครั้งนี้ ดร.ณัฐสิทธิ์ แห่งสถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ยินดีที่จะถือแฮนด์บิลแคมเปญ #ฮักเจียงใหม่บ่เอาถ่านหิน ของกรีนพีซ ประเทศไทย ไว้ในมือ และบันทึกภาพร่วมกับ ‘ฟาดฝุ่น’ ช้างเผือกเปื้อนถ่านหินมาสคอทประจำแคมเปญ เพื่อร่วมส่งเสียง ‘บ่เอาถ่านหิน’ เพราะนี่คือการ ‘บอกฮัก’ บ้านเกิด

“เราจะเห็นว่าการเลือกทำเลที่ตั้งเมืองเชียงใหม่มีความสมบูรณ์แบบมาก” ดร.ณัฐสิทธิ์ กล่าวถึงประวัติศาสตร์การตั้งเมืองเชียงใหม่

 “2 ในชัยมงคล 7 ประการมีเรื่องสัตว์เผือกด้วยครับ ซึ่งคือฟานเผือกและหนูเผือก ถ้ามองในมุมวิทยาศาสตร์ สัตว์เผือกทำให้เราเห็นศักยภาพความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ในสมัยเมื่อ 700 ปีก่อน ส่งผลให้เกิดการกลายพันธุ์ การกลายพันธุ์จะเกิดขึ้นได้ในสภาพแวดล้อมที่ต้องมีความอุดมสมบูรณ์สูงมากๆ”

แต่ความพิเศษที่เกิดจากความอุดมสมบูรณ์ในโลกบรรพกาลกำลังจะปนเปื้อนด้วยมลพิษจากพลังงานในโลกสมัยใหม่ โลกที่สภาพภูมิอากาศกำลังเปลี่ยนแปลงด้วยอัตราเร่งอย่างรุนแรง

“ผมคิดว่าวิวัฒนาการของมนุษย์ต้องพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เราต้องอยู่กับธรรมชาติอย่างชาญฉลาดขึ้นเรื่อยๆ เราต้องซีเรียสมากกว่านี้ในการสร้างเมืองโดยไม่สร้างผลกระทบย้อนกลับมาที่ตัวเราเอง เพราะเราอยู่ในวิกฤตเรื่องสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นตัวคูณที่ทำให้ภัยพิบัติรุนแรงขึ้นในทั่วโลก

“ย้อนกลับมาดูกฎหมายไทยอย่าง EIA มันยังไม่พอต่อการประเมิน เพราะกำหนดขอบเขตไว้แคบมาก แต่ผลกระทบของเรื่องนี้เดินทางไกลมากนะครับ เราต้องมองไปที่ภูมิภาคระดับโลกเวลาที่จะประเมินผลกระทบเรื่องนี้

“เราจะส่งมอบมรดกให้คนรุ่นต่อไปแบบนี้เหรอ เมืองที่เราออกไปใช้ชีวิตข้างนอกไม่ได้ บ้านของเราเป็นบ้านที่ต้องปิดหน้าต่างทุกบาน ไม่มีรู ไม่มีหน้าต่างที่เปิดได้ เราจะส่งมอบอากาศที่ปนเปื้อนฝุ่นควันถ่านหินให้ลูกหลานเหรอครับ นี่คือคำถามที่ผมขอฝากไว้นะครับ”

คำถามของนักวิชาการด้านผังเมืองผู้หลงใหลในตำนาน ปรัมปรา ประวัติศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ทำให้เรานึกถึงฟานเผือกสองแม่ลูกที่ต่อสู้กับหมาป่าในตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่

“ถ้าเรามองในเชิงวิทยาศาสตร์ ฟานเผือกสองตัวนั้นจะต้องแข็งแรงมากๆ จึงต่อกรกับนักล่าได้ ผมจินตนาการไปถึงสัญชาตญาณของแม่ที่ต้องปกป้องลูก และความอุดมสมบูรณ์ทั้งเชิงภูมิประเทศและระบบนิเวศที่ทำให้ฟานเผือกแม่ลูกคู่นี้มีความแข็งแรงจนต่อกรกับนักล่าได้”

หรือนี่คือการ ‘โต้กลับ’ ของประชาชนคนหนึ่งต่อโครงการเหมืองถ่านหิน สัญชาตญาณในการต่อสู้ครั้งนี้เป็นไปเพื่อความต้องการส่งต่อเมือง อากาศ และชีวิตที่ดีไปสู่คนรุ่นต่อไป

“เชียงใหม่พัฒนามาเรื่อยๆ จากยุคสมัยสร้างเมืองมาจนถึงวันนี้ ผมอยากให้เมืองเชียงใหม่ใช้ความลุ่มลึกของภูมิปัญญาโบราณมาขับเคลื่อนเมืองในสถานการณ์ที่เราอยู่ในยุคที่ท้าทายที่สุดในประวัติศาสตร์” ณัฐสิทธิ์กล่าวราวกับนี่คือบทที่ 1 ในตำนานเมืองเชียงใหม่ในโลกศตวรรษที่ 21


#ฮักเจียงใหม่บ่เอาถ่านหิน

#HugChiangmaiNoCoal

โครงการเหมืองถ่านหินอมก๋อย

ย้อนหลังไปในปี 2530 มีบริษัทเอกชนเข้ามาขอซื้อที่ดินในหมู่ 12 บ้านกะเบอะดิน ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จากการบอกเล่า สมาชิกในชุมชนส่วนหนึ่งต้องขายที่ดินให้ไปอย่างไม่เต็มใจ เนื่องจากถูกข่มขู่และถูกยึดที่ดิน

อ่านเพิ่มเติม