จริงอยู่ที่ว่ามีตำแหน่งงานนับล้านที่เกิดจากภาคอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิล (ไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขที่ชัดเจนได้) แต่เราต้องเลิกมองเรื่องดังกล่าวว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลกับพลังงานหมุนเวียน และควรตระหนักได้แล้วว่าการเปลี่ยนผ่านพลังงานนี้กำลังเกิดขึ้นจริงๆและหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกต่อไป และหันมาพิจารณาถึงโอกาสที่พลังงานหมุนเวียนจะช่วยสร้างอาชีพได้ ทั้งด้านการผลิต การติดตั้ง การจัดจำหน่าย และงานบริการ ฯลฯ

อาชีพในอนาคต

ในตอนนี้ สิ่งที่เห็นได้ชัดคือโลกของเรากำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านด้านการผลิตและการใช้พลังงาน และอาชีพในภาคพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลกำลังลดลงเรื่อยๆ ในขณะที่กลุ่มอาชีพด้านพลังงานหมุนเวียนกำลังเติบโตขึ้นและได้รับการสนับสนุนทั้งจากนโยบายพลังงานและตลาด ตัวอย่างเช่น

  • บริษัทเจเนอรัลอิเล็กทริก (General Electric Company) หรือ จีอี (GE) ได้ปลดพนักงาน 12,000 ตำแหน่งออกในเดือนธันวาคม ปี 2560 เพื่อรับมือกับความต้องการใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ลดลง โดยทางบริษัทกล่าวว่า “ตลาดพลังงานแบบเก่า ทั้งก๊าซและถ่านหิน กำลังอ่อนแอลงเรื่อยๆ” ในขณะเดียวกัน ทางซีเมนส์ (Siemens) บริษัทคู่แข่งในเยอรมนีเองก็ปลดพนักงานออก 7,000 ตำแหน่งหรือคิดเป็นร้อยละ 2 ของงานทั้งหมดในบริษัท โดยสาเหตุหลักมาจากการใช้พลังงานและก๊าซลดลงเนื่องจากการเติบโตขึ้นของพลังงานหมุนเวียน
  • อัตราการจ้างงานในภาคพลังงานหมุนเวียนกลับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคิดเป็นอัตราที่มากกว่าภาคพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลถึง 2.5 ต่อ 1 ในสหรัฐอเมริกา (มีการจ้างงานในโรงไฟฟ้าถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ 187,117คน เทียบกับการจ้างงานในอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ 374,000 คนและในอุตสาหกรรมพลังงานลม 100,000 คน) และแม้ว่าจะรวมอัตราการจ้างงานในภาคการผลิตเครื่องยนต์ปิโตรเลียมและดีเซล การจ้างงานในอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียนก็ยังอยู่ในสัดส่วนที่สูงกว่าอยู่ดี
  • ในประเทศจีน ภาคพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมได้เพิ่มการจ้างงานกว่าห้าแสนตำแหน่งในปี 2558 โดยยังไม่นับรวมตำแหน่งงานโดยอ้อมอย่างด้านการขนส่งและวัตถุดิบ นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมีการจ้างงานถึง 7.7 ล้านตำแหน่งในภาคพลังงานหมุนเวียนภายในปี 2573 ซึ่งนับเป็นจำนวนเท่ากับตำแหน่งงานในภาคพลังงานหมุนเวียนทั้งหมดทั่วโลกในปี 2558

ในทางตรงกันข้าม อาชีพในภาคพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล โดยเฉพาะถ่านหิน กลับกำลังจะลดลงเรื่อยๆ (และลดลงแล้วในช่วงที่ผ่านมา) เพราะกระบวนการใช้เครื่องจักรกลและกลไกตลาด โดยในภาคอุตสาหกรรมน้ำมัน การจ้างงานเพิ่มขึ้นและลดลงตามราคาน้ำมันที่ผันผวน ทำให้การจ้างงานในภาคส่วนดังกล่าวไม่มั่นคงและยากที่จะคาดการณ์ได้

เกมสถิติตัวเลข

ไม่มีตัวเลขที่แน่ชัดปรากฏว่าผู้ที่ได้รับการจ้างงานทั่วโลกในภาคอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลมีจำนวนเท่าใด แต่มีผู้ได้รับการจ้างงานในภาคพลังงานหมุนเวียนแล้วถึง 9.8 ล้านคน และตัวเลขยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยในกลุ่มประเทศที่เพิ่งเริ่มต้นเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานหมุนเวียนเองก็ยังมีศักยภาพอีกมากที่จะเพิ่มอัตราการจ้างงานให้สูงขึ้นไปอีก ทบวงการพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศ (International Renewable Energy Agency: IRENA) กล่าวว่าอาจมีการจ้างงานในภาคพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกมากถึง 24 ล้านตำแหน่งในปี 2573 ส่วนทางทบวงพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ซึ่งเคยประเมินการเติบโตของพลังงานหมุนเวียนไว้ต่ำกว่าความเป็นจริงมาโดยตลอด ยังทำนายว่าภายในปี 2573 เกินกว่าครึ่งของผู้ที่ทำงานด้านพลังงานจะได้รับการจ้างงานโดยภาคพลังงานหมุนเวียน

การเปลี่ยนผ่านอย่างเป็นธรรม

พนักงานจำนวนมากในอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลต่างรู้สึกถูกคุกคามจากการเปลี่ยนผ่านนี้อย่างน่าเห็นใจ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เราจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างเป็นธรรมสู่พลังงานรูปแบบใหม่ อันเป็นการเปลี่ยนผ่านที่พนักงานและชมชุนต่างมีสิทธิที่จะช่วยเลือกทางเดินในอนาคตของพวกเขาเอง กลยุทธ์นี้พัฒนาขึ้นโดยกลุ่มสหภาพแรงงานผู้ต้องการยุติข้อโต้แย้งเรื่องการต่อสู้ระหว่างสิ่งแวดล้อมและการจ้างงาน โดยยิ่งมีระบบพลังงานที่มีพื้นฐานอยู่ในชุมชนท้องถิ่นและเป็นประชาธิปไตยมากเท่าใด ผู้คนก็ยิ่งจะสามารถเดิมพันอนาคตของตน ทำให้อาชีพเป็นอาชีพในท้องที่ และสร้างการลงทุนที่จะส่งผลดีต่อชุมชนท้องถิ่นได้มากขึ้นเท่านั้น

หากคุณต้องการรับชมเรื่องราวที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจเกี่ยวกับอาชีพในภาคพลังงานแสงอาทิตย์ คุณสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่นี่

ประเด็นสำคัญ: ในขณะนี้มีการจ้างงานในภาคพลังงานหมุนเวียนสูงกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลในอัตรา 2.5 ต่อ 1 ในสหรัฐอเมริกา