ผัดผักมื้อนี้ อาจมียาฆ่าหญ้าเป็นของแถม
ปัจจุบันสารเคมี ทั้งยาฆ่าหญ้าและยาฆ่าแมลงได้เข้ามาเป็นส่วนสำคัญของการทำเกษตรกรรมส่วนใหญ่ โดยเฉพาะยาฆ่าหญ้า เช่น ไกลโฟเซต ซึ่งสิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือสารเคมีที่มีพิษต่อสุขภาพร่างกายมนุษย์นี้ มีการใช้อย่างแพร่หลายในประเทศไทย ซึ่งล่าสุดองค์การสหประชาชาติได้ระบุว่าไกลโฟเซตอาจก่อให้เกิดมะเร็งได้ ดังนั้น ทั้งเกษตรกรและผู้บริโภคอย่างเราๆ ควรทำความรู้จักกับอันตรายของสารชนิดนี้ให้มากขึ้น และศึกษาวิธีที่จะหลีกเลี่ยงมัน เพื่อที่เราจะมีพืชผักบริโภคได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน โดยที่ไม่ทำร้ายสุขภาพของคุณ เกษตรกร และสิ่งแวดล้อม

ทางออกปลอดสารเคมี
เรายังมีทางที่จะหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนในอาหารได้ สำหรับผู้บริโภคปลายทางแบบเราแล้ว คำตอบง่าย ๆ ที่จะรักษาสุขภาพร่างกายของเราไว้นั่นก็คือ ‘สนับสนุนอาหารที่มาจาก การเกษตรเชิงนิเวศ หรือ Ecological Farming’ ซึ่งเกษตรนิเวศนี้ก็คือระบบการบริหารทรัพยากร เพื่อทำการผลิตทางการเกษตรที่ตอบสนองต่อความจำเป็นและต้องการของมนุษย์ และในขณะเดียวกันก็ธำรงรักษาและฟื้นฟูคุณภาพของสิ่งแวดล้อม ตลอดจนช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ หากท่านไม่คุ้นเคยกับชื่อการเกษตรเชิงนิเวศให้นึกถึง การเกษตรแบบผสมผสานตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ตามพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นการปลูกพืชตามฤดูกาล และมีวิธีการกำจัดวัชพืชแบบธรรมชาติ ด้วยหลักการ ป่า 5 ระดับ ซึ่งการเกษตรในลักษณะนี้จะช่วยให้ทั้งเกษตรกรและผู้บริโภคห่างไกลจากสารเคมีมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศให้คงอยู่

ความจริงแล้ว ในภูมิปัญญาดั้งเดิมของการทำเกษตรกรรมของไทยก็มีวิธีกำจัดวัชพืชที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว เช่น การเลี้ยงห่านเพื่อกินหญ้า หรือการเลี้ยงไก่เพื่อกินแมลงที่เป็นศัตรูพืช เราไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสารเคมีที่เต็มไปด้วยพิษต่อสุขภาพร่างกายและสิ่งแวดล้อมเลย นอกจากจะทำให้เกษตรกรปลอดภัยจากสารพิษที่ตกค้างอยู่ในร่างกายแล้ว ผู้บริโภคก็ได้รับความปลอดภัยจากการรับประทานผักที่ปลอดสารพิษ และยังมั่นใจได้อีกว่า เราไม่ได้บริโภคอาหารบนความเสี่ยงของเกษตรกรอีกด้วย

กรีนพีซ ประเทศไทย ร่วมทำงานกับเครือข่ายชุมชน
เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมและสิทธิชุมชนในหลากรูปแบบประเด็น เราส่งเสริมสันติภาพ โดยไม่รับเงินสนับสนุนจากบริษัท รัฐบาล หรือ พรรคการเมืองใด เพื่อความเป็นอิสระทางการทำงาน
Discussion
ควรกำจัดยาฆ่าหญ้าไปได้แล้ว และให้ความรู้ชาวบ้านที่เห็นว่ายาฆ่าหญ้าคือสิ่งจำเป็น ที่จะลดเวลาทำงานและความเหน็ดเหนื่อยทั้งๆที่จริงแล้ว มันไม่ใช่เลย
เห็นซื้อกันมาใช้พ่นหญ้ากันส่วนใหญ่ จะทำไงดี ละอองก็ปลิวตามลมคนที่อยู่ข้างๆก็ต้องรับสารพิษไป เจ้าของไร่ก็ไม่สนใจคนข้างเคียงและเอาง่ายเข้าไว้ ไม่คิดถึงผู้บริโภค พืชผักที่ปลูกกันงามๆ ไม่ทราบว่าจะมีสารพิษตกค้างหรือไม่ ผู้บริโภคก็ไม่รู้เรื่อง น่าจะมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาติดตามคอยสอดส่องดูแลและเก็บตรวจสารพิษแล้วแจ้งโทษ คนที่ใช้ยาจะได้ปรับเปลี่ยนวิธีอื่นๆ