ทุกๆปี สถาบันวิจัยและอวกาศแห่งชาติของบราซิล (National Space and Research Institute : INPE) เผยแพร่ข้อมูลการทำลายป่าแอมะซอน โดยจากข้อมูลตั้งแต่เดือน กรกฎาคม 2021 ไปจนถึงเดือนสิงหาคม 2022 มีพื้นที่ป่าถูกทำลายไปเทียบเท่าสนามฟุตบอล 1.6 ล้านสนาม หรือคิดเป็นสนามละ 11.568 ตารางกิโลเมตร แน่นอนว่าผืนป่าที่ถูกทำลายในระดับนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะอุบัติเหตุ แต่เป็นเพราะนโยบายของ ฌาอีร์ โบลโซนาโร อดีตประธานาธิบดีบราซิลซึ่งดำรงตำแหน่งในช่วงปี 2019 – 2022 ทำให้ผืนป่าหายไปทั้งหมด 45,586 ตารางกิโลเมตร หรือคิดเป็นร้อยละของพื้นที่ป่าที่หายไปถึง 53% เมื่อเทียบกับข้อมูลในช่วง 4 ปีก่อนหน้า (2012 – 2018)

ภาพมุมสูงใน Porto Velho ภูมิภาคอะมาโคร พื้นที่ดังกล่าวถูกทำลายโดยรวมประมาณ 8,000 เฮกตาร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ถูกทำลายกว้างที่สุดในปี 2022 โดยถูกไฟป่าเผาผลาญในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน © Nilmar Lage / Greenpeace

รัฐบาลที่นำโดยโบลโซนาโรมีนโยบายคัดค้านการพัฒนาที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและคัดค้านสิทธิชนพื้นเมือง ซึ่งเป็นผลกระทบที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศโดยไม่อาจแก้ไขได้ คณะรัฐบาลดังกล่าวเป็นคณะทำงานชุดที่ไม่ยอมรับสิทธิต่อที่ดินของชนพื้นเมืองตั้งแต่ปี 1988 และจากคำมั่นสัญญาที่โบลโซนาโรให้ไว้ระหว่างการเลือกตั้ง รวมถึงการบริหารที่อนุญาตให้กลุ่มกว้านที่ดิน กลุ่มคนตัดไม้และการขุดเหมืองสามารถเข้าไปขยายกิจกรรมที่ผิดกฎหมายในพื้นที่ป่าแอมะซอนมากขึ้น กลายเป็นภัยคุกคามต่อผืนป่า ระบบนิเวศและทำให้โลกตกอยู่ในวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

และจากการวิจัยโดยนักวิทยาศาสตร์ คาลอส โนบรี และโทมัส เลิฟจอย ระบุว่า ป่าแอมะซอนกำลังเข้าสู่จุดวิกฤตที่ผืนป่าไม่อาจเป็นป่าฝนเขตร้อนได้อีกต่อไป เพราะระดับการถูกทำลายเกิดขึ้นสูงมาก อีกทั้งบางส่วนของป่ายังปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าทำหน้าที่กักเก็บ ทำให้บราซิลกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงที่สุดในโลก และยังเป็นประเทศที่มีระดับการทำลายผืนป่ามากที่สุด โดยบราซิลปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการทำลายป่าประมาณ 40% ซึ่งมักจะเป็นไฟป่าที่เกิดขึ้นโดยเจตนา

ทั้งนี้หมอกควันปริมาณมากจากการไฟป่ากลายเป็นผลกระทบต่อสุขภาพกับชุมชนท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาต้องสูดดมควันพิษซึ่งเป็นอันตรายในขณะที่ก็ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เลวร้ายจากการระบาดของโรคโควิด – 19 อีกด้วย

ภาพมุมสูงของไฟป่าในป่าแอมะซอน เมื่อเดือนกันยายน 2021 © Victor Moriyama / Greenpeace

ปีนี้โบลโซนาโรลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเขาแพ้คะแนนให้กับ ลูอีซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซีลวา อดีตประธานาธิบดี โดยแคมเปญหาเสียงของลูลาประชาสัมพันธ์ถึงการปกป้องป่าแอมะซอนและจะพาบราซิลกลับสู่การเจรจากับภาคีต่าง ๆ เพื่อวางแผนรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ และแม้ว่าคณะทำงานของเขาจะยังไม่ได้เริ่มเข้าทำเนียบรัฐบาล แต่ลูลาก็เดินทางไปร่วมประชุม COP27 เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาและคณะรัฐบาลจะทำตามคำมั่นสัญญาด้านสิ่งแวดล้อมที่เคยให้กับประชาชน

เพื่อที่จะฟื้นฟูสิ่งต่าง ๆ หลังจากที่คณะทำงานเดิมเคยสร้างความเสียหายเอาไว้ คณะรัฐบาลชุดใหม่จะต้องมีแผนการที่เป็นรูปธรรมและทำได้จริงเพื่อปกป้องป่าแอมะซอนและสภาพภูมิอากาศ รัฐบาลที่นำโดยลูลาจะต้องพัฒนาแผนการบริหารที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมการทำลายผืนป่าและต่อสู้กับการทำเหมืองและการยึดที่ดิน ผ่านการสร้างพื้นที่คุ้มครองและเคารพต่อสิทธิของชนพื้นเมือง รวมทั้งควบคุมและรับผิดชอบต่ออาชญากรรมทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น เพราะเรากำลังอยู่ในโลกที่เกิดวิกฤตสภาพภูมิอากาศและคนอีกหลายล้านชีวิตทั่วโลกกำลังได้รับผลกระทบ ดังนั้นเราจำเป็นต้องลงมือแก้ไขให้เร็วที่สุด