หาดทรายสวย น้ำใส คงเป็นทะเลในฝันของใครหลายคนที่เป็น Vitamin sea lover การพักผ่อนริมทะเลนอกจากไปรับบรรยากาศลมเทแล้วการเจอทะเลที่สวย น้ำทะเลสามารถลงเล่นน้ำได้ด้วยคงเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย
เกาะที่ดูเล็กแต่ไม่เล็กอย่างสีชัง อีกทั้งยังเดินทางง่ายคงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ใครหลายคนเลือกที่ใช้เวลาพักผ่อนที่เกาะแห่งนี้อย่างแน่นอน และเกาะแห่งนี้มีบ้านพักที่น่ารัก อบอุ่น แถมยังเต็มไปด้วยความใส่ใจของเจ้าของ “โม่ เกศแก้ว ทองจรูญ” ผ่าน “บ้านอยู่ดีมีความสุข”
บ้านอยู่ดีมีความสุข
บ้านอยู่ดีมีความสุขเป็นบ้านพักเล็ก ๆ ในเกาะสีชังที่มีเพียง 7 ห้องนอนแต่ทุกห้องนอนเต็มไปด้วยความใส่ใจ โม่เล่าให้ฟังว่าจุดเริ่มต้นของการทำบ้านพักแห่งนี้มีโจทย์ว่าบ้านพักของเราต้องทำลายทรัพยากรโลกให้ได้น้อยที่สุด เริ่มจากเรื่องเล็ก ๆ ที่คำนึงถือการปล่อยน้ำเสียที่เกิดจากการใช้น้ำยาซักผ้าหรือครีมอาบน้ำที่มีส่วนผสมของสารเคมีใช้แล้วทิ้งลงทะเล โม่ตีโจทย์นี้ได้แตกละเอียดโดยการหาวิธีการอย่างใช้สบู่ รวมถึงน้ำยาซักผ้าที่ทำมาจากผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคอีกด้วย
บ้านที่เต็มไปด้วยการใช้ของให้คุ้มค่าและทำลายสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
จุดเด่นของบ้านพักแสนน่ารักแห่งนี้นอกจากความต้องการที่จะทำลายทรัพยากรของโลกให้น้อยที่สุดแล้ว การใช้สิ่งของทุกชิ้นให้เกิดความคุ้มค่าก็เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน โม่เล่าพื้นเพตัวเองว่า ได้เปิดบริษัทเล็ก ๆ ที่มีการออกแบบทำของกระจุ๊กกระจิ๊กมากมาย อย่างเช่น ถุงผ้า บรรจุภัณฑ์เพื่อใส่ของต่าง ๆ ช่วงสิบปีที่ผ่านมา ประเด็นโลกร้อนดูเหมือนจะเป็นอะไรที่น่าสนใจของใครหลายคน การหันมาใช้ถุงผ้ากลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้คนตระหนักในปัญหาสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะปัญหาขยะพลาสติกที่เกิดจากการใช้ถุงพลาสติกเกินความจำเป็น
หลายครั้งที่มีการสั่งทำถุงผ้าจะมีพวกกระเป๋าต้นแบบและส่วนที่เกินจำนวนเกินออเดอร์แล้วผลิตภัณฑ์นั้นโม่จะนำถุงผ้าเหล่านี้ไปแจกจ่ายเพื่อน พนักงาน รวมถึงเอามาใช้เป็นถุงขยะตามห้องพักแทนการใช้ถุงดำเพื่อลดจำนวนขยะที่อาจเกิดขึ้นจากธุรกิจบ้านพักของตัวเอง “บ้านพักของเราเป็นบ้านพักที่หลีกเลี่ยงการใช้ Single-use plastic น้ำดื่มที่จัดเตรียมไว้สำหรับทุกห้องพักใช้ขวดแก้วทรงที่เราชอบแทนการวางขวดน้ำพลาสติก เราบอกลูกค้าทุกคนว่าบ้านพักของเรามีน้ำให้ดื่มแบบไม่จำกัด ลูกค้าไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อน้ำดื่มมาเพิ่ม ถังขยะในห้องพักทุกห้อง เราใช้ถุงผ้าร่มแทนการใช้ถุงดำเพราะผ้าร่มเป็นผ้าที่สามารถซักและแห้งได้อย่างรวดเร็ว พอเห็นว่าถุงขยะของเราเป็นผ้าเขามักจะไม่ทิ้งขยะที่เป็นน้ำที่ยากต่อการซัก จริง ๆ เป็นทริคของเราที่อยากให้เขาแยกขยะก่อนทิ้งไปในตัว” นอกจากความพยายามในการลดขยะที่เกิดจาก Single-use plastic แล้วนั้น โม่นำเศษผ้าเก่าที่มีลวดลายสวยงามมาถักทอเป็นผ้าม่านเพื่อใช้ในการตกแต่งตามห้องพัก จุดนี้แหละที่ทำให้รู้สึกว่าบ้านนี้เป็นบ้านพักสไตล์ Cozy เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างแท้จริง
Trash Hero เกาะสีชัง
โม่เล่าว่าเกาะสีชังเป็นเกาะที่ผู้คนรู้จักกันหมดว่าใครทำอาชีพอะไร บ้านอยู่ตรงไหน ทำให้คนบนเกาะรู้อยู่แล้วว่าเราเป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องการลดการสร้างขยะและจัดการกับปัญหาขยะบนเกาะให้ดีขึ้น ทำให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหาทางออกร่วมกันเพื่อที่เกาะสีชังจะไม่กลายเป็นเกาะที่เต็มไปด้วยบ่อขยะยากที่จะจัดการ จุดนี้แหละที่ทำให้เรามี Trash Hero เกาะสีชัง จนถึงทุกวันนี้
Trash Hero เป็นการรวมตัวของกลุ่มคนที่สนใจและมีความพยายามลดการสร้างขยะ โม่เปรียบเสมือนฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้มี Trash Hero เกาะสีชัง “ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราได้รับโอกาสจากหลายคนในการทำงาน ตอนนี้เราอยากให้อะไรกลับไปให้คนอื่นบ้าง ไม่ใช่รูปแบบของเงินแต่เป็นการทำอะไรบางอย่างเพื่อโลกที่เราอยู่ อย่างที่เล่าให้ฟังว่าเกาะสีชังเป็นเกาะเล็ก ๆ ทำให้คนบนเกาะรู้ว่าเราจริงจังมากเรื่องลดขยะพลาสติก ทำอย่างไรก็ได้ให้ขยะเกิดจากเราน้อยที่สุด พอเขารู้ว่าเราตั้งใจตั้งกลุ่ม Trash Hero เขาก็มาร่วมกิจกรรมกับเราแม้ว่ากิจกรรมของ Trash Hero ที่กำลังทำอยู่ตอนนี้คือการเก็บขยะที่ติดค้างอยู่ตามชายหาดรอบเกาะสีชัง แต่เราเชื่อว่านี่เป็นก้าวสำคัญที่ทุกคนในชุมชนรับรู้ถึงปัญหาขยะพลาสติกที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้และเชื่อว่าในอนาคต ทุกคนจะเข้าใจพร้อมกับเอาตัวเองเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเฟืองที่จะแก้ปัญหา”
หากถามถึงการจัดการขยะบนเกาะสีชังนั้นยังคงห่างไกลกับคำว่าจัดการได้ดีอยู่พอสมควร ความที่เป็นเกาะ การขนส่งขยะออกไปมีต้นทุนที่ค่อนข้างสูงและไม่คุ้มค่าที่จะนำขยะออกไป กลายเป็นว่าเกือบทั้งหมดของขยะบนเกาะสีชังถูกทิ้งไว้ที่บ่อขยะรอการเผา ตามข้อมูลของทางเทศบาล ในหนึ่งวันมีขยะที่ถูกสร้างขึ้นราว 12 ตัน แต่เตาเผาขยะที่มีเพียงสองเตาสามารถเผาทิ้งได้แค่วันละ 2-3 ตันเท่านั้น ที่เหลือจะถูกทิ้งไว้ตามบ่อและถูกฝังกลบโดยที่บ่อขยะถูกขยายเพิ่มไปเรื่อย ๆ เปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อย ๆ รอบเกาะและนั่นไม่ใช่วิธีการกำจัดหรือการจัดการขยะในแบบที่ควรจะเป็น
“ตอนนี้หลุมขยะที่ผุดงอกเป็นดอกเห็ดทั่วเกาะสีชัง แม้ว่าเราชาวเกาะไม่ได้รับผลกระทบจากมลพิษที่เกิดจากหลุมขยะเท่าไหร่นัก เพราะมักจะตั้งอยู่ห่างไกลจากชุมชน แต่บาดแผลที่เรากำลังสร้างให้สิ่งแวดล้อมนั้นสาหัสมาก หากเรายังคงมองว่าขยะพลาสติกเหล่านั้นเป็นเรื่องไกลตัว จับต้องไม่ได้ และไม่จำเป็นต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน เกาะสีชังของเราที่เคยมีสภาพแวดล้อมที่ดีคงไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวที่ทุกคนนึกถึงอีกต่อไป มันอาจทำลายอาชีพหลักของทุกคนบนเกาะที่ต้องการนักท่องเที่ยวเพื่อหล่อเลี้ยงปากท้อง ถ้าเราไม่เริ่มหันมาใส่ใจมันตั้งแต่ตอนนี้ สุดท้ายแล้วปัญหาที่เราไม่คิดว่าเป็นปัญหานี่แหละจะกลับมาทำร้ายเราทุกคนอย่างแน่นอน”