เห็นมั้ยห้ามเอาพลาสติกกับโฟมเข้าคาเฟ่จริงๆนะ

     เราอาจเคยเห็นร้านค้าที่มีแนวคิดแบบ Zero Waste ในต่างประเทศมาสักพักแล้ว และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้รู้จักกับ Refill Station ธุรกิจเพื่อสังคมที่เกิดจากการรวมตัวของคนรุ่นใหม่ ซึ่งพวกเขามีความตั้งใจที่จะลดขยะอย่างจริงจัง ปัจจุบัน Refill Station จับมือกับคาเฟ่ที่มีสไตล์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Better Moon Cafe กลายเป็นคาเฟ่ทางเลือกสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ตั้งใจอยากลดขยะ

บรรยากาศในคาเฟ่ลดพลาสติก Better Moon Cafe มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาเยี่ยมเยียน

     คุณแพร์ผู้ดูแลหลักของคาเฟ่เล่าว่า Better Moon Cafe เกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกับ Refill Station ด้วยอยากสร้างความเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกี่ยวกับขยะ พร้อมๆกับการสร้างรายได้ เธอก็อยากให้ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจสีเขียว จึงตั้งใจให้ทั้งคาเฟ่ลดขยะอย่างจริงจัง มีอุปกรณ์ใช้ซ้ำ เช่น หลอดสแตนเลส อุปกรณ์แก้วใช้ซ้ำ มีจุดเติมน้ำสำหรับลูกค้าที่เอากระบอกน้ำมา คาเฟ่ยังมีจุดบริจาคขวดพลาสติกเพื่อนำไปรีไซเคิล และมีจุดยืมภาชนะให้ลูกค้าซื้อขนมจากนอกร้านมาทานด้วยนะ หรืออย่างการตกแต่งในร้านจะเป็นการนำเฟอร์นิเจอร์เก่าที่เธอมีนำมาปรับใช้ พยายามไม่สร้างขยะเพิ่ม

“ ร้านอื่นห้ามเครื่องดื่ม อาหารจากที่อื่นเข้ามาทานในร้าน แต่เราห้ามนำโฟม พลาสติกเข้ามาในร้านแทน ”

การทำคาเฟ่ที่ลดขยะแบบนี้ มีความท้าทายอะไรบ้าง?

ก็มีความท้าทายหลายอย่าง เช่นมีทั้งลูกค้าที่ชอบร้าน และลูกค้าที่ตั้งคำถามกับสิ่งที่เราพยายามอยู่ แต่แพร์คิดว่าเป็นเรื่องปกติค่ะ เช่น ลูกค้าชอบแนวคิดการลดขยะของร้าน ชอบบรรยากาศร้าน เขาก็จะเข้าใจในสิ่งที่เราทำเป็นต้น แต่บางทีลูกค้าอาจจะไม่เข้าใจเช่น ทำไมถึงใช้หลอดสแตนเลส ล้างสะอาดหรือเปล่า? ในทุกๆอณูที่เรากำลังเปลี่ยนแปลง มักจะเกิดการตั้งคำถามเสมอ

Better Moon Cafe มีจุดยืมถ้วยชามให้เราออกไปซื้อขนมเข้ามาทานในร้านได้ แต่ห้ามเอาโฟมกับพลาสติกเข้ามาด้วยนะ

“ แนวคิดให้ยืมจานไปซื้อของกินข้างนอก ก็เพราะว่าเราอยาลดขยะพลาสติก โฟม แต่คุณแม่แพร์ก็จะบอกว่า ไม่ได้นะเดี๋ยวเราเจ๊งนะ หรือการรับบริจาคขวดของร้านเองถ้ามีขวดที่ไม่ได้ล้างมันก็เป็นภาระของเรา ในรายละเอียดการทำงานในแนวคิดลดขยะมีความท้าทายเยอะมากๆ ”

จุดเด่นของคาเฟ่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

คุณแพร์เล่าว่า เธอจะพยายามไม่ใช้เฟอร์นิเจอร์ใหม่ในการตกแต่งร้าน แต่จะดูเฟอร์นิเจอร์ที่ตัวเองมีก่อนแล้วเอามาตกแต่งร้าน ส่วนอะไรที่ไม่มีแล้วจำเป็นต้องใช้ถึงค่อยซื้อ

“ เราพยายามออกแบบร้านให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่สุด อย่างประตูบานเฟี๊ยมหน้าร้านก็เป็นประตูเก่าที่มีอยู่แล้ว ซึ่งช่วงหน้าหนาวเราจะไม่เปิดแอร์ แต่เปิดประตูนี้เพื่อรับลมได้เลย หรืออย่างอิฐสีแดงที่ปูพื้นเราก็เห็นว่าอิฐชนิดนี้มันดูดซับความเย็น และมีดีไซน์เหมาะกับร้าน ”

     นอกจากนี้ เครื่องดื่มและอาหารคือพระเอก นางเอกของคาเฟ่เลยทีเดียว ซึ่ง Better Moon Cafe ก็ยังคงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นมิตรสุขภาพของพวกเราอีกด้วย เพราะเมนูในร้านก็เป็นเมนูคลีนๆ (แถมมีผักเยอะ) และราคาไม่แพงเกินไป เช่น สลัดผลไม้ ซีซาร์สลัด สลัดอกไก่ ขนมปังไข่ชีส เมนูผลไม้ปั่นหลากชนิด เป็นต้น

Better Moon Cafe เสิร์ฟอาหารด้วยอุปกรณ์ใช้ซ้ำ

“ ในขณะที่ตัวเราเริ่มเปลี่ยนมาลดใช้พลาสติก ก็อาจจะเจอกับการตั้งคำถามหรือแรงต้าน อาจจะมีคนมองว่าเราเรื่องมากก็ได้นะ แต่เราก็ใช้ความอดทนเพราะแพร์คิดว่าถ้าเราจะสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างมันคือการทำสิ่งสิ่งนั้นในทุกๆวัน ทำให้ได้อย่างต่อเนื่อง ” 

ลดต่อ ไม่รอแล้วนะ กับ Refill Station ปั๊มน้ำยา

คุณแอนและคุณน้ำมนต์เล่าว่า มีความคิดที่จะลดพลาสติกหลากหลายวิธีมาก แต่ก็มาจบที่ไอเดียร้าน Zero Waste ซึ่งจริงๆแนวคิด Refill Station ไม่ใช่แนวคิดใหม่เพราะในต่างประเทศหลายประเทศก็มีร้านแบบนี้อยู่แล้ว แต่เราอยากทำให้มันเกิดขึ้นในประเทศไทย ก็เลยเริ่มทดลองซื้อน้ำยาแกลลอนมาแบ่งขายในตลาด หลังจากทดลองตั้งโต๊ะเปิดร้านตามตลาดสด กับขวดน้ำยาแกลลอนแล้วก็พบว่า ‘ยังไม่เวิร์ค’ ทีมปั๊มน้ำยาก็ลองมาทดลองเปิดร้าน Refill Station ใน Better Moon Cafe

“ ตอนนั้นก็ยังกังวลนิดหน่อยว่า คนไทยจะมีซื้อเหรอ? จะมีคนมาซื้อหรือเปล่าเพราะใครๆก็เข้าร้านสะดวกซื้อกันหมด ”

หนึ่งในจุดยอดนิยมของ Better Moon Cafe นั่นคือ ร้าน Refill Station


     จากตอนนั้นจนถึงตอนนี้ จากน้ำยาแกลลอนธรรมดาๆ ก็พัฒนากลายมาเป็นน้ำยาจากวัตถุดิบธรรมชาติ และอุปกรณ์ที่จะช่วยให้เราลดขยะพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวมากขึ้น

“ เราเคยดูคลิปของ ลอว์เรน ซิงเกอร์ ผู้หญิงที่ใช้ชีวิตโดยที่ไม่สร้างขยะ เลยรู้ว่าต่างประเทศเขามีร้านที่ให้เราเอาภาชนะไปเติม เราเลยหาข้อมูลร้านแบบนี้ในไทย ปรากฎว่ามันไม่มีเลย ก็เลยอยากจะมีร้านแบบนี้ในประเทศไทยบ้าง ”

Refill Station ไม่ใช่แค่แนวคิดแค่อยากเก๋ แต่ลดพลาสติกได้จริง

ใน 1 ปีที่ผ่านมาทีม Refill Station ทำงานหนักมากกับเป้าหมายการลดพลาสติกตั้งแต่ต้นทาง เช่นการทำงานกับผู้ผลิต ขวดแกลลอนที่เอาไว้เติม ทีมจะส่งคืนให้ผู้ผลิตเพื่อเติมน้ำยาแล้วส่งกลับมาให้ร้าน ทั้งนี้ทีมยังศึกษาเกี่ยวกับ ‘ตู้เติมน้ำยา’ ที่หวังว่าจะกระจายแนวคิดการลดพลาสติกออกไปให้ไกลมากยิ่งขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ Refill Station ยังขยายไปยังคาเฟ่อื่นๆ เช่น คาเฟ่ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) เป็นต้น

นอกจาก Refill Station จะมีจุดเติมน้ำยาต่างๆ แล้ว ยังมีจุดขายที่อาหารแห้งแบบไร้บรรจุภัณฑ์ด้วย

“ เราค่อยๆขยายไปเพราะในรายละเอียดเราต้องทำงานเยอะมาก ความท้าทายของ Refill Station คือการควบคุมคุณภาพ ทั้งเรื่องการลดขยะพลาสติกเองและการควบคุมคุณภาพสินค้า ”

     สำหรับใครที่อยากเอาแนวคิดของ Refill Station หรือคาเฟ่ไปทำในพื้นที่ของตัวเอง ทางทีมเปิดกว้างมากเพราะมองว่าเป็นเรื่องที่ดีหากมีร้านแบบนี้เกิดขึ้นเรื่อยๆ แต่อยากให้เพื่อนๆหรือเครือข่ายที่สนใจทำศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำร้านแบบนี้ให้ดีก่อน

Better Moon Cafe รับบริจาคขวดพลาสติกที่ใช้แล้ว แต่อย่าลืมล้างให้สะอาดก่อนนะจ๊ะ

     ทีม Refill Station ทั้ง 3 คน ยังให้กำลังใจทิ้งท้ายกับใครก็ตามที่กำลังตั้งใจลดขยะพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งว่า การลดใช้พลาสติกเป็นเรื่องไม่ยากแต่แค่ช่วงแรกๆเราอาจจะไม่ชิน ไม่แปลกเพราะพลาสติกเพิ่งเกิดขึ้นมาไม่นานแต่เราชินกับการใช้พลาสติกทุกวันๆ พอเราลดใช้พลาสติกบ่อยขึ้น ต่อเนื่องขึ้นเราก็จะรู้ด้วยตัวเองว่า เราก็ทำได้ นอกจากนี้การพกภาชนะเองมันช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของเราด้วยนะ ถือว่าเป็นทางออกที่ดีต่อเราและดีต่อโลก