เมื่อวิกฤตสภาพภูมิอากาศคือเรื่องจริงไม่จ้อจี้ และโลกนี้กำลังกลายเป็นภาพยนตร์เรื่อง Don’t look up! ตอนนี้เราจึงต้องฟังนักวิทยาศาสตร์พูดบ้าง เพราะเราไม่มีเวลาแล้ว ไม่แก้ตอนนี้จะแก้ตอนไหน ผู้นำโง่เราจะตายกันหมดของจริง!!!

พบกับบทสัมภาษณ์ Reyes Tirado นักวิทยาศาสตร์อาวุโส ผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรกรรมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จากห้องปฏิบัติการวิจัยกรีนพีซ มหาวิทยาลัยเอ็กซิเตอร์ เกี่ยวกับรายงานจากคณะทำงานจากคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ  (IPCC) ที่เผยว่า ‘ระบบอาหารและป่าไม้คือทางออกของวิกฤตสภาพภูมิอากาศ’ 

สัมภาษณ์โดยคริสตีน เจอเบอเนเตอร์ นักสื่อสารและวางยุทธศาสตร์อาวุโสแห่งกรีนพีซ

Reyes Tirado นักวิทยาศาสตร์อาวุโส จากห้องปฏิบัติการวิจัยกรีนพีซ มหาวิทยาลัยเอ็กซิเตอร์ สหราชอาณาจักรเก็บตัวอย่างน้ำที่ หมู่บ้าน Barchhibigha ในเขต Nalanda © Swapan Nayak / Greenpeace

ใจความหลักของรายงาน IPCC คืออะไร?

ใจความที่สำคัญที่สุดของรายงานล่าสุดคือ ‘เราพอมีทางแก้ไขวิกฤตสภาพภูมิอากาศ เพียงแต่ต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงจากทุกภาคส่วน’ ในรายงานยังพูดถึงแนวทางการการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหลายวิธีที่สามารถทำได้ในทศวรรษหน้าโดยใช้ต้นทุนไม่มากนักหรือแทบจะไม่ต้องใช้เลย เช่น การเปลี่ยนไปใช้พลังงานลมและแสงอาทิตย์ หยุดตัดไม้ทำลายป่า และเปลี่ยนมากินอาหารที่เน้นพืชเป็นหลัก ทางออกเหล่านี้จะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกลงได้ภายในปี 2573 

อีกประเด็นที่พบคือนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศของรัฐบาลต่างๆกำลังนำเราไปสู่ความล้มเหลว  ตอนนี้คือเวลาที่จะรับมือด้วยนโยบายและแผนที่ชัดเจน มีประสิทธิภาพและนำเราออกจากความตกต่ำนี้ 

วิกฤตสภาพภูมิอากาศและความหลากหลายทางชีวภาพเป็นเรื่องด่วนขนาดไหนสำหรับเรา?

ไม่มีคำไหนที่จะอธิบายคำว่า ‘เร่งด่วน’ ได้อีกแล้ว เราควรยอมรับความจริงที่ว่า ‘ตอนนี้’ คือเวลาที่จะต้องรีบใส่เกียร์เดินหน้าแก้ไขวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ถ้าในทศวรรษหน้าเราล้มเหลวในการลดการปล่อยมลพิษจำนวนมาก มีโอกาสสูงที่เราอาจไม่สามารถอยู่บนโลกใบนี้ได้แล้ว

© Anton Voronkov / Greenpeace

มีวิธีไหนที่ที่ง่ายที่สุดที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อหยุดการล่มสลายของสภาพภูมิอากาศและความหลากหลายทางชีวภาพ?

หยุดตัดไม้ทำลายป่า รักษาป่าไม้และระบบนิเวศอื่นๆ ขณะเดียวกันก็เคารพสิทธิในดินแดนของชนพื้นเมืองและชุมชนท้องถิ่น อย่างไรก็ตามในการที่จะปกป้องผืนดินธรรมชาติ เราจำเป็นจะต้องกดดันอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่าและการล่มสลายของระบบนิเวศ ปัจจัยสำคัญคือการหยุดการเลี้ยงสัตว์เชิงอุตสาหกรรมซึ่งจะสำเร็จได้โดยการลดการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้มีรายได้สูง

อะไรคือ 3 สิ่งที่รัฐบาลทั่วโลกควรทำเพื่อช่วยโลกของเรา?

3 ข้อที่สำคัญที่สุดคือ การปลดแอกเชื้อเพลิงฟอสซิล ลดการใช้พลังงาน และเปลี่ยนไปใช้พลังงานลมและแสงอาทิตย์แทน  อนุรักษ์ป่าไม้และระบบนิเวศทางธรมชาติโดยเปลี่ยนไปบริโภคอาหารจากพืชที่ปลูกโดยการเกษตรเชิงนิเวศ แต่ปัจจัยสำคัญคือ ‘นโยบายการเงิน’ เราควรเปลี่ยนทิศทางการลงทุนจากการอุดหนุนระบบที่ทำลายล้างไปสู่การลงทุนแก้ปัญหาอย่างยุติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชุมชนเปราะบางที่กำลังพัฒนา

คนธรรมดาจะทำอะไรได้บ้างเพื่อร่วมแก้ปัญหานี้?   

ประเด็นแรกคือเราต้องรวมกันเพื่อบอกให้นักการเมืองเห็นความสำคัญของวิกฤตสภาพภูมิอากาศต่ออนาคตของเรา ให้การสนับสนุนการเคลื่อนไหวของเยาวชน เข้าร่วมกับการเคลื่อนไหวในท้องถิ่นเพื่อเรียกร้องถึงการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ต่อสู้เพื่อปกป้องธรรมชาติ ลงคะแนนเลือกผู้นำทางการเมือง การรวมกันของคนกลุ่มเล็กๆนำไปสู่การสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เสมอ

เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงที่คุณอยากเห็นในโลกใบนี้ ถ้าการเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียนเป็นเรื่องที่ดี เลือกเดินทางโดยรถไฟมากกว่าเครื่องบิน ลดการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ กินอาหารจากพืชผักที่มาจากเกษตรกรรมเชิงนิเวศในท้องถิ่น จริงอยู่ว่าเราไม่สามารถแก้วิกฤตสภาพภูมิอากาศได้โดยตัวคนเดียว แต่การกระทำของคนตัวเล็กๆแต่ละคนจะนำไปสู่การสร้างบรรทัดฐานใหม่เสมอ ส่งสัญญาณถึงนักการเมืองและภาคธุรกิจ  เรารับผิดชอบส่วนของเราโดยการเริ่มต้นที่ตัวเอง และหวังว่ารัฐบาลจะต้องรับผิดชอบหน้าที่ของตนเพื่อแก้ปัญหาที่เราทุกคนต่างผชิญอยู่อีกด้วย

IPCC คิดว่ายิ่งพลเมืองและภาคประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วมแก้ไขวิกฤตสภาพภูมิอากาศแค่ไหน โอกาสที่เราจะมีนโยบายที่แข็งแกร่งก็มีมากเท่านั้น เราไม่มีเวลาแล้ว!

อาสาสมัครที่กลาสโกลว์เข้าร่วมการเคลื่อนไหวในงาน COP26 เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลสหราชอาณาจักรและเหล่าผู้นำโลกหยุดพาพวกเราไปสู่ความล้มเหลวในการจัดการวิกฤตสภาพภูมิอากาศ © Jeremy Sutton-Hibbert / Greenpeace