เช้าตรู่วันที่ 26 เมษายน 2529 เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลจำนวนสี่เครื่องระเบิด สหประชาชาติประกาศว่า เป็นหายนะด้านสิ่งแวดล้อมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประวัติศาสตร์มนุษยชาติ การระเบิดที่เชอร์โนบิลเป็นอุบัติเหตุที่อุตสาหกรรมนิวเคลียร์เคยมั่นใจอยู่เสมอว่า จะไม่มีทางเกิดขึ้น
ยี่สิบห้าปีต่อมา อุบัติเหตุที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะในญี่ปุ่นทำให้เรายิ่งต้องตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดหายนะอย่างเชอร์โนบิลขึ้นได้อีกในทุกที่ที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์
รังสีนิวเคลียร์จากเชอร์โนบิลยังแพร่กระจายและยังคงอยู่ในอีก 30 ปีต่อมา ส่งผลถึงการดำรงชีวิตของผู้คนอีกหลายล้านคน นี่คือความจริง 15 ประการ ที่คุณอาจยังไม่รู้ถึงหายนะที่กำลังเกิดขึ้น:
1. เมื่อ 30 ปีก่อน เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ที่ยูเครน เกิดการระเบิดขึ้น ประชาชนเกือบห้าล้านคนยังอาศัยอยู่ในพื้นที่ปนเปื้อนจนถึงทุกวันนี้
2. ปริมาณของรังสีที่แพร่กระจายออกมา มีอานุภาพมากกว่ารังสีจากระเบิดปรมาณูที่ถล่มใส่เมืองนางาซากิและฮิโรชิมะถึงอย่างน้อย 100 เท่า
3. ประชาชนในเมืองใกล้เคียงอย่าง พริเพียต (Pripyat) อพยพออกจากพื้นที่ทันทีภายในสองวันหลังเกิดหายนะภัย ในช่วงเวลานั้นหลายคนได้รับรังสีปนเปื้อนในระดับสูง
4. ฝนกรดจากกัมมันตรังสีแพร่กระจายไปไกลถึงไอร์แลนด์ โดยยูเครน เบลารุส และ รัสเซีย เป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากหายนะภัยเชอร์โนบิลมากที่สุด คือมีพื้นที่ปนเปื้อนรังสีมากถึงร้อยละ 63
5. เมืองพริเพียต ถูกทิ้งร้างเนื่องเนื่องจากระดับการแพร่กระจายของรังสีอยู่ในปริมาณสูง กลายเป็นที่อยู่ของสุนัขป่า ม้าป่า บีเวอร์ หมูป่า และสัตว์อื่นๆ
6. สัตว์ที่หากินอยู่ในละแวก 30 กิโลเมตรโดยรอบโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล มีอัตราการตายก่อนอายุขัยสูงมากขึ้น มียีนผิดปกติมากขึ้น และมีอัตราการเกิดลดลง
![Stray Dog in Pripyat © Vaclav Vasku / Greenpeace Stray Dog in Pripyat © Vaclav Vasku / Greenpeace](https://www.greenpeace.org/static/planet4-thailand-stateless/2019/03/4351ec55-4351ec55-125042_215692.jpg)
7. คุณอาจคิดว่าเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เครื่องอื่นๆ ของโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล คงจะปิดทำงานไปแล้ว แต่ความจริงคือ เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์อีกสามเครื่องเริ่มเดินเครื่องและใช้งานแล้วหลังจากเกิดหายนะภัยเพียง 13 ปีให้หลัง
![Reactor 1 and 2 at Chernobyl Nuclear Plant © Greenpeace / Stefan Füglister Reactor 1 and 2 at Chernobyl Nuclear Plant © Greenpeace / Stefan Füglister](https://www.greenpeace.org/static/planet4-thailand-stateless/2019/03/e898c53e-e898c53e-125043_215694.jpg)
8. วัตถุดิบกัมมันตรังสียังอยู่ในแท่นซีเมนต์ปรักหักพังที่สร้างครอบเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ โดยอาคารขนาดใหญ่หลังใหม่ถูกสร้างขึ้นครอบแท่นซีเมนต์ ซึ่งน่าจะใช้งานได้อีกอย่างน้อย 100 ปี
9. ป่าโดยรอบพื้นที่หายนะภัย มีชื่อใหม่ว่า “ป่าแดง” เนื่องจากรังสีนิวเคลียร์ทำให้ใบเป็นสีน้ำตาลแดง และ ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่
![Measuring Radiation at the Red Forest in Pripyat © Vaclav Vasku / Greenpeace Measuring Radiation at the Red Forest in Pripyat © Vaclav Vasku / Greenpeace](https://www.greenpeace.org/static/planet4-thailand-stateless/2019/03/3b63e909-3b63e909-125045_215698.jpg)
10. อุตสาหกรรมนิวเคลียร์และรัฐบาลที่มีนโยบายสนับสนุนนิวเคลียร์ ทั้งในยูเครน รัสเซีย และ เบลารุส ยังเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์มูลค่าหลายพันล้าน โดยเพิกเฉยต่อความรับผิดชอบที่ต้องช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากเชอร์โนบิล รัฐบาลประเมินผลกระทบจากหายนะภัยในขั้นต่ำสุด และหลบเลี่ยงความจริงที่เกิดขึ้นในเชอร์โนบิล
![Village Drosdyn near Chernobyl © Jan Grarup / Noor / Greenpeace Village Drosdyn near Chernobyl © Jan Grarup / Noor / Greenpeace](https://www.greenpeace.org/static/planet4-thailand-stateless/2019/03/9ecd5697-9ecd5697-125046_215700.jpg)
11. วันนี้ คุณสามารถจองทัวร์ไปเยี่ยมชมเขตต้องห้ามในเชอร์โนบิล บริษัทท่องเที่ยวจัดโปรแกรมเที่ยววันเดียวไปเมืองร้างพริเพียต
12. พริเพียต อยู่ในสถานะของเมืองที่มีการปนเปื้อนระดับสูง และยังคงถูกทิ้งร้าง เนื่องจากต้องกำจัดพลูโตเนียมที่แพร่กระจายปกคลุมไปทุกหนแห่ง โดยคาดว่าต้องใช้เวลามากกว่า 24,000 ปี เพื่อลดปริมาณความเข้มข้นครึ่งหนึ่งที่ปรากฎในขณะนี้
13. รังสีนิวเคลียร์มีอานุภาพมากพอที่ทำให้ตาของนักดับเพลิงอย่างวลาดิมีร์ ปราวิก เปลี่ยนจากสีน้ำตาลเป็นสีฟ้า
14. สวีเดนเป็นประเทศแรกที่ประกาศต่อชาวโลกถึงหายนะภัยจากการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ขณะที่รัฐบาลยูเครนเลือกที่จะปิดปากเงียบในตอนแรก
![Deserted City of Pripyat © Clive Shirley / Signum / Greenpeace Deserted City of Pripyat © Clive Shirley / Signum / Greenpeace](https://www.greenpeace.org/static/planet4-thailand-stateless/2019/03/6f8c02cf-6f8c02cf-125051_215710.jpg)
15. ในพื้นที่ปนเปื้อนหลายแห่ง โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลมีผลต่อการดำรงชีวิตของประชาชนในทุกมิติ รังสีจากเชอร์โนบิลปนเปื้อนในอาหารที่กิน ในนม ในน้ำที่ดื่ม ในโรงเรียน ในสวนสาธารณะ และในสนามเด็กเล่นที่ลูกหลานของเราใช้ และ ในป่าที่พวกเขาต้องเข้าไปตัดฟืนมาเผาเอาไออุ่น