© Mariner Books, an imprint of HarperCollins Publishers

วาเนสซา นาคาเต้  (Vanessa Nakate) นักกิจกรรมด้านสภาพภูมิอากาศชาวอูกันดา ได้กลายเป็นตัวแทนเสียงเรียกร้องด้านสภาพภูมิอากาศ เธอยังได้แชร์บางส่วนของหนังสือที่เธอเขียนขึ้นชื่อ A Bigger Picture: My Fight to Bring a New African Voice to the Climate Crisis ซึ่งมีเนื้อหาที่เธอพูดถึงสิ่งที่สตรีและเด็กผู้หญิงชาวแอฟริกันสามารถสร้างผลสะเทือนในการแก้ปัญหาวิกฤตสภาพภูมิอากาศ หากพวกเธอสามารถเข้าถึงการศึกษาได้อย่างเท่าเทียม

สมัยที่ฉันยังเด็ก ฉันหายออกจากบ้านไปในเช้าวันหนึ่งจนทำให้พ่อแม่ตามหาฉันอย่างไม่ลดละ พวกเขาเจอฉันนั่งอยู่ในห้องเรียนใกล้ ๆ กับสถานรับเลี้ยงเด็ก ฉันอยากเรียนหนังสือและพร้อมที่จะเรียนรู้เอามากๆ และในวันถัดมาเหตุการณ์ในทำนองเดียวกันก็ยังคงเกิดขึ้น พ่อของฉันจึงปรึกษากับครูว่าจะทำอย่างไรดีเพราะฉันยังเด็กเกินกว่าที่จะเข้ามาเรียนในโรงเรียน และฉันก็ร้องไห้หนักมากหากถูกพาออกจากชั้นเรียน ครูคนนั้นบอกกับพ่อของฉันว่าการจ่ายเงินให้เด็กที่อายุน้อยกว่าเกณฑ์เข้าเรียนหนังสือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่เธออนุญาตให้ฉันนั่งเรียนได้ฟรีๆ ดังนั้นทุก ๆ เช้าฉันจึงได้ไปโรงเรียน และหลังจากนั้นฉันก็ได้ลงทะเบียนเรียนก่อนเวลาของเกณฑ์ทั่วไป

แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือความกระหายที่จะเรียนรู้ และฉันก็โชคดีมากที่ครอบครัวสนับสนุนฉันในเรื่องนี้ พวกเขาต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินให้มากพอสำหรับจ่ายค่าเทอม แม่ของฉันกังวลว่าลูกสาวของเธอจะไม่มีความเชี่ยวชาญและความรู้ติดตัวเพื่อสร้างรายได้ในอนาคต สำหรับแม่และฉัน ไม่ว่าจะแต่งงานหรือไม่ แต่ความมั่นคงทางการเงินคืออิสระและสิ่งจำเป็นสำหรับผู้หญิง

การเข้าไม่ถึงการศึกษาเป็นการจำกัดโอกาสของเด็กๆ โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง

พ่อของฉันก็ยืนกรานเช่นนั้น เพราะปู่ของฉันก็เคยผลักดันให้พ่อและพี่น้องของพ่อได้เข้าเรียนหนังสือในโรงเรียน ดังนั้นเขาจึงอยากให้ฉันได้รับโอกาสแบบเดียวกับที่เขาได้รับ เช่นเดียวกันกับแม่ พ่อเห็นอุปสรรคที่เกิดขึ้นกับเด็ก ๆ จากข้อจำกัดในการเข้าถึงการศึกษาโดยเฉพาะเด็กผู้หญิง เขาหวังว่าสิ่งที่ผลักดันจะส่งพลังให้ฉันและพี่น้องอีก 2 คนได้เติบโตอย่างมั่นคง เป็นผู้หญิงที่รู้สิทธิของตัวเองรวมทั้งสามารถยืนหยัดอยู่ในสังคมที่ดีกว่า ฉันกับพ่อจบจากมหาวิทยาลัย Makerere University Business School

แรงผลักดันที่ครอบครัวมีต่อลูกทั้ง 5 คนของพวกเขาไม่ได้จบลงเพียงเท่านั้น แต่ยังขยายไปถึงลูกพี่ลูกน้องของเราอีก 3 คน พ่อแม่ของเราให้ค่าเล่าเรียน รวมถึงโอกาสในการศึกษากับพวกเขามากพอ ๆ กับที่เราได้รับ เมื่อพูดถึงพี่น้องของฉันแล้ว แคลร์กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยด้านสัตวศาสตร์ ในขณะที่โจนส์เพิ่งจบการศึกษาเมื่อปี 2562 และได้รับทุนจากรัฐบาลเพื่อเรียนต่อในมหาวิทยาลัย พอล คริสเตียน ก็เพิ่งจบจากโรงเรียนมัธยม ส่วนเทรเวอร์ในวัย 6 ขวบก็กำลังเรียนอยู่ชั้นประถม

การให้ความรู้แก่เด็กผู้หญิงไม่ใช่เรื่องไฮเทคหรือเป็นไอเดียใหม่ แต่เป็นนโยบายหลักในการพัฒนาระดับโลกมานานหลายทศวรรษแล้ว ซึ่งในความเป็นจริงคุณอาจเคยได้ยินผู้นำประเทศหลายคนทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ให้ความสำคัญต่อการศึกษาของเด็กผู้หญิงอย่างเท่าเทียมกับเด็กผู้ชาย แม้ว่าการศึกษาในระดับประถมศึกษาของอูกันดาจะมีความเท่าเทียมกันระหว่างหญิงชาย (ซึ่งเป็นการบรรลุเป้าหมายด้านความเท่าเทียม) แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ยังมีเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายอีกหลายพันคนที่ไม่ได้เรียนหนังสืออยู่ในห้องเรียน โดยเฉพาะผู้หญิงอย่างที่เคยเกิดขึ้นในยุคของแม่หรือญาติบางคนในครอบครัวขยายของฉัน พวกเขาบางคนต้องออกจากโรงเรียนกลางคันก่อนจะจบชั้นมัธยม นั่นหมายความว่ามีผู้หญิงอูกันดาจำนวนไม่มากนักที่ได้เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย เมื่อตอนที่ฉันยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย ฉันพบว่ามีผู้หญิงจำนวนมากเรียนในชั้นเรียนเดียวกับฉัน แต่ถึงกระนั้นก็ตามก็ยังมีผู้หญิงอีกมากที่ไม่ได้เรียนต่อ

แน่นอนว่าฉันก็ใส่ใจการเข้าถึงความรู้ของเด็กผู้ชายด้วยเพราะฉันยังมีพี่น้องสองคนที่เป็นผู้ชาย แต่ปัญหาการเข้าไม่ถึงการศึกษาของผู้หญิงยังคงน่าเป็นห่วง ทั่วภูมิภาคแอฟริกาเขตใต้ทะเลทรายซาฮารามีเด็กผู้หญิงอย่างน้อย 33 ล้านคนที่เข้าไม่ถึงการศึกษาในระดับชั้นประถมและระดับที่ต่ำกว่าชั้นมัธยมศึกษา (เป็นระดับการศึกษาเทียบเท่าประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น) ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเด็กอยู่หญิงมากกว่า 50 ล้านคนในภูมิภาคดังกล่าวถูกผลักออกจากระบบการศึกษาในระดับชั้นมัธยมตอนปลาย

หากดูจากสถิติทั่วโลกแล้ว มีผู้หญิงมากกว่า 130 ล้านคนที่ไม่สามารถเข้าเรียนในโรงเรียน ลองคิดว่าหากพวกเธอเหล่านี้มีโอกาส โลกจะได้ครูที่มีคุณภาพ ทนายความ หมอ หรือพนักงานในองค์กรไม่แสวงหากำไร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือนักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพภูมิอากาศเพิ่มขึ้นกี่คน

สำหรับฉัน ฉันคิดว่าเด็กผู้หญิงและสตรีเป็นกลุ่มประชากรโลกที่มีมากกว่าครึ่ง ซึ่งหากเราอยากประสบความสำเร็จในการต่อกรกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ เราจำเป็นต้องให้ผู้หญิงเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมตัดสินใจในนโยบายที่จะส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ (รวมทั้งการตัดสินใจในด้านอื่น ๆ ด้วย) และการศึกษาจะเป็นเส้นทางให้พวกเธอเข้าไปสู่พื้นที่การตัดสินใจนั้น และการขยายจำนวนผู้ที่มีส่วนในการตัดสินนโยบายมีความเป็นไปได้ที่จะหาทางออกให้กับปัญหานี้

คลิปการพูดคุยเกี่ยวกับการประชุมสุดยอดสภาพภูมิอากาศโลก COP26 ของวาเนสซา นาคาเต้ และเอ็มม่า วัตสัน นักแสดงหญิงและนักกิจกรรม

ทั้งนี้ทั้งนั้น การเข้าไม่ถึงทรัพยากรและผลลัพธ์ในทางที่ดีที่อาจเป็นผลบวกต่อชีวิตที่มากพอ มีส่วนจากการลดทอนอำนาจผู้หญิง ฉันมั่นใจว่ายังมีเด็กสาวอีกหลายล้านคน (และอีกมากมายนับไม่ถ้วนในแอฟริกา) ที่รักในการเรียนรู้ผ่านโรงเรียนมัธยมหรือแม้กระทั่งในมหาวิทยาลัย แต่พวกเธออาจกำลังตั้งคำถามเกี่ยวกับโอกาสและความสามารถของตัวเอง เช่น พวกเธออาจถามตัวเองย้ำ ๆ ในใจว่าแม่ของฉันไม่ได้เรียนหนังสือในโรงเรียน แล้วฉันจะเรียนสูงกว่านั้นได้อย่างไร? หรือ ฉันเป็นแค่เด็กผู้หญิงในชนบท ฉันคงไม่ได้ไปใช้ชีวิตที่ไหนไกลนอกจากที่นี่ ถึงเรียนไปก็ไม่ได้เอาไปต่อยอดอะไร?

หากคุณยังไม่ได้แต่งงาน ยังไม่มีลูกและยังไม่ได้ตั้งรกรากชีวิตตัวเองด้วยการทำไร่ทำนา หรือต้องหุงหาอาหารเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวของตัวเอง จะมีตัวเลือกอะไรอีกที่รอคุณอยู่? ตัวเลือกที่ว่าคุณต้องย้ายตัวเองออกจากชนบทเล็ก ๆ ไปยังกัมปาลา (Kampala) และมาทำงานเป็นแม่บ้านในบ้านคนรวยอย่างนั้นหรือ?

บางทีสิ่งที่กล่าวมาอาจเป็นชีวิตของผู้หญิงที่กำลังเดินผ่านป้ายประท้วงของเรา พวกเธออาจกำลังถามตัวเองด้วยความสงสัยปนความงงงวยว่าพวกเรากำลังทำอะไรกัน? แต่พวกเธออาจไม่มีเวลามาตั้งคำถามกับพวกเราได้นานนัก เพราะยังมีงานบ้านที่เจ้านายสั่งให้ทำอีกมากมาย พวกเธอรีบขึ้นรถเมล์และมุ่งหน้ากลับบ้านเพื่อเตรียมอาหารเย็นหรือถูบ้าน หรือซักผ้า แน่นอนว่าฉันไม่เห็นว่าพวกเธอให้ความสนใจพวกเราอย่างแน่นอน

แล้วผู้หญิงจากชนบทแบบนี้จะสามารถกลายเป็นนักกิจกรรมด้านสภาพภูมิอากาศได้หรือไม่? เธอจะมีเวลามากพอไหม? พวกเธออาจมีแค่เวลาเช็คมือถือ (ที่อาจไม่ใช่สมาร์ทโฟนแบบที่เรามี) และนั่นทำให้เธอเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ยากขึ้นเนื่องจากมันมีราคาสูง ดังนั้นพวกเธออาจถูกผลักออกจากข้อมูลข่าวสารที่เกิดขึ้นทั่วโลก และเมื่อถึงเวลาที่เธอเติบโตอยู่ในช่วงวัย 20 เธออาจจะมองหาอาชีพอื่น ๆ หรือเธออาจจะถูกไล่ออกเพราะภรรยาของเจ้านายเธออาจกังวลเกี่ยวกับสามีและความสนใจเชิงชู้สาวที่อาจเกิดขึ้น

เรื่องแบบนี้อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และนั่นอาจทำให้ผู้หญิงกลุ่มนี้ไม่สามารถมีความมั่นคงทางการเงินได้

แน่นอนว่าไม่มีใครเผชิญโชคชะตาอันเลวร้ายที่สุด แต่เราก็ไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับผู้หญิง สำหรับฉันแล้ว โชคชะตาแบบนี้คือการที่เราต้องตื่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด เด็กผู้หญิงเหล่านี้คงไม่เลือกทางเดินนี้ตั้งแต่แรกหากมีทางเลือกอื่นที่เปิดโอกาสให้เธอ เช่นการเรียนจบมัธยมศึกษาหรือการเรียนจนจบระดับมหาวิทยาลัยและได้ทำงานที่มีอิสระทางด้านการเงินรวมทั้งยังสามารถร่วมเป็นนักกิจกรรมขับเคลื่อนงานรณรงค์ได้อีกด้วย

การแพร่ระบาดของโควิด 19 และผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ได้เพิ่งแรงกดดันต่อประชากร เช่นค่าเล่าเรียน (โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง) และกำลังกลายเป็นของราคาแพง

เรื่องจริงที่น่าเศร้าคือการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้ทำให้สถานการณ์ที่ฉันเล่าไปข้างต้นแย่ลงไปอีก ทั้งที่หลายพื้นที่ของโลกก็เผชิญกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศแทบทุกวันอยู่แล้ว ทั้งโรคระบาดและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสร้างแรงกดดันเพิ่มขึ้นต่อรายได้ในครัวเรือนทั่วแอฟริกาและหลายภูมิภาคเช่น ลาตินอเมริกาและเอเชีย ค่าเล่าเรียนของนักเรียนโดยเฉพาะเด็กนักเรียนหญิงกลายเป็นสิ่งที่มีราคาแพงและฟุ่มเฟือยซึ่งจะต้องถูกตัดออกจากรายจ่ายของครอบครัว เหมือนกับที่ฮิลด้า นาคาบูเย่ และเด็กชายเด็กหญิงอีกหลายล้านคนไม่เคยได้กลับไปเรียนหนังสือในโรงเรียนอีกเลย สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้การต่อสู้เพื่อสิทธิในการเข้าถึงความรู้ของเด็กผู้หญิงหลายทศวรรษที่ผ่านมาอาจไม่ได้รับความสำคัญมากนัก

เราอาจไม่ทราบจำนวนที่แท้จริงของเด็กที่ได้รับผลกระทบและไม่อาจทราบต้นทุนค่าเสียโอกาสจากการหลุดออกจากระบบการศึกษา รวมถึงค่าความเสียหายที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด ที่เกิดขึ้นทั้งต่อตัวเด็กเอง ต่อสังคม และสภาพภูมิอากาศ

บางส่วนจากหนังสือ  A Bigger Picture: My Fight to Bring a New African Voice to the Climate Crisis © 2021  โดยวาเนสซา นาคาเต้ ฉบับพิมพ์ใหม่โดย Mariner Books สำนักพิมพ์ HarperCollins Publishers เจ้าของลิขสิทธิ์ 

ติดตามวาเนสซาได้ที่ Twitter และ Instagram ของเธอ