ฉันได้รับพลังมากมายจากการเดินขบวนไพรด์ที่ใหญ่เท่าที่เคยมีมาในอัมสเตอร์ดัมที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา  เทศกาลไพรด์ในอัมสเตอร์ดัม (The Amsterdam Pride festival) เกิดขึ้นมากว่า 25 ปีแล้ว แต่การเฉลิมฉลองที่คลองของเราถูกระงับไปเนื่องจากการระบาดของโควิด 19 นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับฉัน ด้วยเพราะการเดินขบวนไพรด์มักจะนำเสนอภาพความหลากหลายทางเพศเป็นหลัก ในการเป็นนักเคลื่อนไหวที่มีความหลากหลายทางเพศ ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่การเดินขบวนไพรด์จะเป็นการประท้วงเพราะเราต่อสู้มาเนิ่นนานเพื่อสิทธิของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ  ฉันไปร่วมเดินขบวนกับกลุ่ม Queers4Climate NL กลุ่ม Extinction Rebellion และเพื่อนร่วมงานกรีนพีซ และอาสาสมัครต่างไปรวมตัวกันเพื่อกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศในวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ถือเป็นหมัดหนักเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้สภาพอากาศ

ดีเดอริค ฟาน เดน เอนด์เดินขบวนไพรด์ที่อัมสเตอร์ดัม © Marten van Dijl / Greenpeace

ในขณะที่ฉันภูมิใจที่ได้การร่วมขบวนไพรด์นี้ โซเชียลมีเดียของเรากลับได้รับข้อความเชิงเหยียดรวมถึงความคิดเห็นว่า “กรีนพีซควรพูดเรื่องสิ่งแวดล้อมเท่านั้น”  ฉันคิดว่ากรีนพีซก็รณรงค์เรื่องสภาพภูมิอากาศมาตลอดควบคู่ไปกับการสนับสนุนกลุ่มผู้มีความหลากกหลายทางเพศ กรีนพีซต่อสู้เพื่อสังคมที่เป็นธรรมและสันติของทุกคน รวมไปถึงสรรพสัตว์ และโลกในความหลากหลายทั้งปวงมากว่า 50 ปี และเราไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงไปร่วมกิจกรรมไพรด์ทั่วโลก ทั้งในเทศกาลมาร์ดิกราส์ (Mardi Gras)ในซิดนีย์จนถึงเทศกาลผู้มีความหลากหลายทางเพศที่โซล  แล้วประเด็นเพศสภาพ เพศวิถี และสภาพอากาศจะมาบรรจบกันตรงไหน?

LGBTQIA+ กับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

ไคร่า จากกลุ่ม Extinction Rebellion และกลุ่ม Queers4Climate กล่าวกับกรีนพีซในขบวนไพรด์ที่ผ่านมาว่า “สิทธิมนุษยชนและสิทธิของสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้” เธอเข้าร่วมไพรด์เพื่อสนับสนุนเพื่อน ๆ ของเธอ และเพื่อแสดงให้เห็นว่าวิกฤตสภาพภูมิอากาศคือปัญหาเร่งด่วนสำหรับคนกลุ่มน้อย

กลุ่มนักเคลื่อนไหว Queers4Climate ออกมาเดินประท้วงต่อวิกฤตสภาพภูมิอากาศ © Marten van Dijl / Greenpeace

จากบทความ ‘วิกฤตสภาพภูมิอากาศไม่สามารถแยกออกจากเพศสภาพและเพศวิถี’ จะเห็นได้ชัดว่ากลุ่ม LGBTQIA+ มักได้รับผลกระทบจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ เรามักจะเห็นว่าที่ใดที่วิกฤตสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดภัยพิบัติ ที่นั่นการกดขี่สิทธิมนุษยชนของกลุ่ม LGBTQIA+ จะเพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างเช่น LGBTQIA+ มักจะไม่มีที่อยู่อาศัยซึ่งทำให้ตกอยู่ในความเสี่ยงต่อภัยธรรมชาติ เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม และพายุ   เกย์ ไบเซกชัวและคนรักข้ามเพศมักจะโดนควันหลงจากภัยธรรมชาติ เช่น LGBTQIA+ ที่ฟิจิถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุของพายุไซโคลนที่มากขึ้น ไม่ใช่เพราะวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

การเดินขบวนไพรด์คือการประท้วง

“การเดินขบวนไพรด์ไม่ใช่งานเลี้ยงสังสรรค์ หากแต่เป็นการประท้วง” ถ้อยคำกู่ร้องของ เจลล์ ไซสตรา นักเคลื่อนไหว Queers4Climate และผู้ประสานงานชุมชนกรีนพีซ ผู้นำกลุ่มภูมิอากาศเดินขบวนพร้อมโทรโข่งในมือ ไพรด์ไม่ใช่เครื่องมือทางการตลาด แต่เป็นการประท้วงเพื่อความยุติธรรม เราเห็นว่ามีบริษัทผู้ก่อมลพิษมากมายต้องการจะสร้างภาพโดยการใช้รูปผู้มีความหลายหลายทางเพศเพื่อทำโฆษณาชวนเชื่อ นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมปีนี้เราถึงมาสนับสนุนกลุ่ม Queers4Climate และตะโกนพร้อมเพียงกันว่า “จะไม่มีไพรด์หากโลกยังถูกทำลาย”  เราสามารถสนับสนุนนักกิจกรรมทุกคนที่ขับเคลื่อนด้านสิทธิมนุษยชนและสภาพภูมิอากาศ

กลุ่ม Queers4Climate ถือป้าย “การเดินขบวนไพรด์คือการประท้วง” © Marten van Dijl / Greenpeace

เริ่มจากหลากหลายจึงนำมาซึ่งขบวนการที่แข็งแกร่ง

กรีนพีซต้องการจะเป็นทั้งองค์กรและการเคลื่อนไหวที่ขับเคลื่อนไปพร้อม ๆ กับกลุ่ม LGBTQIA+ ทั่วโลก นอกเหนือจากคุณค่าที่แท้จริงของผู้มีความหลากหลายทางเพศแล้ว เราอยากจะเป็นสถานที่สำหรับการเคลื่อนไหวของคุณ  เราเชื่อว่าขบวนการที่เต็มไปด้วยความหลากหลายคือขบวนการที่แข็งแกร่ง เอ็นซี หว่องจากกรีนพีซเอเชียตะวันออกและเคลือข่ายสีรุ้งทั่วโลกของกรีนพีซ กล่าวไว้อย่างดีว่า “กลุ่ม LGBTQIA+ มีความโดดเด่นในการท้าทายขั้วอำนาจทางความคิดและเปลี่ยนแปลงทัศนคติผู้คนซึ่งเป็นใจความหลักในงานของกรีนพีซ เฉพาะองค์กรที่มีความหลากหลายเท่านั้นที่เราจะสามารถดึงจุดแข็งเหล่านี้ออกมาเพื่อทำให้แคมเปญของเราประสบความสำเร็จ” นักเคลื่อนไหวที่มีความหลากหลายทางเพศจะเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ในการทำงานของพวกเราทั้งในวันนี้และต่อไป

ร่วมเคลื่อนไหวกับเรา!

คุณเป็นผู้มีความหลากหลายทางเพศที่มุ่งมั่นเคลื่อนไหวด้านสภาพภูมิอากาศหรือไม่? เรายินดีต้อนรับคุณสู่กรีนพีซเสมอ แต่หากคุณอาศัยอยู่ที่อัมสเตอร์ดัม คุณสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของเพื่อน ๆ จากกลุ่ม Queers4Climate ได้ด้วย!

อ่านบทความ คุยกับ พริษฐ์ ชมชื่น ‘เมื่อการเรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศไม่ต่างจากการเรียกร้องให้ปกป้องสิ่งแวดล้อม’

ดีเดอริค ฟาน เดน เอนด์เป็นนักรณรงค์จากกรีนพีซเนเธอร์แลนด์ผู้ต่อสู้เพื่อธรรมชาติ และอนาคตที่เท่าเทียม