การปกป้องมหาสมุทรเพื่อรักษาโลกของเราเอาไว้เป็นอีกหนึ่งเรื่องเร่งด่วนที่ทั่วโลกจะต้องร่วมมือกัน เพราะมหาสมุทรของเราไม่เคยเผชิญกับวิกฤตที่เป็นภัยคุกคามเช่นนี้มาก่อน ทั้งวิกฤตสภาพภูมิอากาศ สภาวะความเป็นกรดของมหาสมุทร การทำประมงเกินขนาด และปัญหามลพิษต่างๆ  การกำหนด “เขตคุ้มครองระบบนิเวศทางทะเล(Ocean Sanctuaries)” เพื่ออนุรักษ์และปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นเรื่องเร่งด่วนที่เราต้องช่วยกันผลักดัน เป้าหมายคือ การปกป้องมหาสมุทรโลกอย่างน้อย 1 ใน 3 ส่วนให้ได้ภายในปี พ.ศ.2573 อย่างไรก็ดี ยังมีคนบางกลุ่มที่เห็นว่าผลประโยชน์นั้นสำคัญมากกว่าสิ่งแวดล้อม

Diving Operation at Vema Seamount. © Richard Barnden / Greenpeace
นักกิจกรรมกรีนพีซถือแบนเนอร์ “Protect The Ocean” เพื่อเรียกร้องให้มหาสมุทร 1 ใน 3 ได้รับการคุ้มครอง จากการลงนามของผู้นำทั่วโลก © Richard Barnden / Greenpeace

ข้อมูลไฟล์บันทึกเสียงสนทนาลับที่รั่วไหลออกมาเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เป็นหลักฐานบ่งชี้ให้เห็นถึงคำกล่าวของรัฐมนตรีกระทรวงการประมงว่าพรรค New Zealand First ได้เข้าขัดขวางการดำเนินงานของรัฐบาล เพื่อคุ้มครองพื้นที่ทางทะเลจากการประมงพาณิชย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการติดกล้องวงจรปิดบนเรือประมงที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง

ไฟล์บันทึกเสียงการสนทนาซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ความผิดในครั้งนี้  มีช่วงหนึ่งในบทสนทนา นาย Stuart Nash รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการประมงของนิวซีแลนด์ ได้กล่าวถึง นาย Winston Peters รัฐมนตรีต่างประเทศ และนาย Shane Jones สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทั้งสองเป็นสมาชิกพรรค NZ First ว่า ทั้งสองคัดค้านมาตรการปรับปรุงอุตสาหกรรมการประมงพาณิชย์ รวมถึงมาตรการคุ้มครองทางทะเลให้มีความเข้มงวดมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจการทำประมงพาณิชย์

Transshipment in the Miid-Atlantic Ocean. © Tommy Trenchard / Greenpeace
การขนส่งปลาทูน่าแช่แข็งจากเรือลำเล็กสู่เรือแม่ เป็นวิธีที่พบเห็นได้ในอุตสาหกรรมประมงพาณิชย์ © Tommy Trenchard / Greenpeace

นาย Nash กล่าวว่า: “ผมต้องเล่นเกมการเมืองในแง่ที่ว่าจะช่วยให้ผมสร้างการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ให้เกิดขึ้น แต่นาย Winston Peters และนาย Shane Jones ต่างก็ยืนยันว่าพวกเขาไม่ต้องการให้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดบนเรือประมง” 

แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งทางการเมืองในกระทรวงการประมง แต่ก็เชื่อว่า พรรค​ NZ First อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจเรื่องดังกล่าวมาตลอด และนาย Shane Jones ก็อยู่ในสถานะ “รัฐมนตรีกระทรวงการประมงเพียงแต่ในนาม”

ข่าวนี้เผยแพร่ออกมาหลังนายJones ออกมาโต้ข้อกล่าวหาที่ว่า เขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจด้านนโยบายประมง โดยประณามกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยว่าเป็น “ นักการเมืองขี้นินทาและชอบยกตนข่มคนอื่น”  

จากไฟล์บันทึกเสียง นาย Nash ยืนยันว่าจะตั้งคณะกรรมการอิสระที่ตรวจสอบการทำประมง มาแทนที่การบังคับใช้กฎหมายติดตั้งกล้องบนเรือประมง แต่ข้อเสนอดังกล่าวก็ถูกขัดขวางโดยพรรค New Zealand First เช่นกัน หลักฐานจากนาย Nash ที่ถูกเปิดเผยในครั้งนี้แสดงให้เห็นแล้วว่า พรรค New Zealand First ไม่ควรมีส่วนร่วมในการตัดสินใจประเด็นการประมงพาณิชย์และการปกป้องมหาสมุทร เพราะเป็นไปได้ว่าพรรคมีผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเรียกร้องมาโดยตลอด

ทั้งนี้ พบว่านิวซีแลนด์มีสัดส่วนของชนิดพันธุ์สัตว์และพืชพันธุ์ประจำถิ่นที่กำลังถูกคุกคามสูงที่สุด โดย 90% ของนกทะเลในนิวซีแลนด์ถูกคุกคามหรือเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติ รวมถึงกลุ่มสายพันธุ์นกเพนกวินที่ตอนนี้ได้รับการสงวนและปกป้องอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ จำนวนประชากรโลมาสายพันธุ์เมาอิ (Māui) และ เฮกเตอร์ (Hector) กำลังลดน้อยลงอย่างต่อเนื่องมาหลายทศวรรษแล้ว เช่นเดียวกับสิงโตทะเลนิวซีแลนด์ก็อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์เพราะได้รับผลกระทบจากการประมงผิดกฎหมาย

เราต้องยืนหยัดต่อสู้กับอุตสาหกรรมประมงแบบทำลายล้าง จึงจะสามารถช่วยเหลือสัตว์ทะเลและปกป้องระบบนิเวศทางทะเลไว้ได้ เรารู้ว่าสิ่งมีชีวิตในทะเลกำลังหมดไป แต่เราก็ขาดข้อมูลด้านสถิติที่แน่ชัดเพราะไม่มีเครื่องมือติดตามที่เหมาะสมเพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนมาตรการทำประมงพาณิชย์ และถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลนิวซีแลนด์จะต้องร่วมมือกันเพื่อแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการแก้ปัญหานี้ 

Albatun Tres Fishing Vessel and Net near Kiribati. © Paul Hilton / Greenpeace
เรือประมงพาณิชย์กำลังใช้อวนล้อมขนาดใหญ่จับปลาทูน่า © Paul Hilton / Greenpeace

ท้ายที่สุดแล้ว การกำหนดให้หนึ่งในสามของพื้นที่มหาสมุทรทั่วโลกเป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ ปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์คือ หัวใจสำคัญที่จะต้องทำให้เกิดขึ้นในตอนนี้ หลายคนอาจสงสัยว่าการปกป้องมหาสมุทรนี้เรามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร? คำตอบก็คือจริงๆแล้วการปกป้องมหาสมุทรในครั้งนี้เป็นเรื่องของทุกๆคนแม้แต่ผู้คนที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้ทะเลหรือมหาสมุทรก็ตาม เพราะนักวิทยาศาสตร์เห็นตรงกันว่าการปกป้องพื้นที่ในมหาสมุทรทั่วโลกร้อยละ 30 เป็นสิ่งจำเป็นต่อการฟื้นฟูและปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพโลก องค์การสหประชาชาติ (UN) ขยายความของเป้าหมายนี้ไว้อย่างชัดเจนว่าพื้นที่ทั้งบนบกและทะเลบนโลกของเราร้อยละ 30 จะต้องได้รับการปกป้องเพื่อให้แน่ใจว่าในอนาคตโลกใบนี้จะยังคงเอื้อต่อการเป็นที่อยู่อาศัยต่อไป

ในตอนนี้ผู้คนกว่า 2 ล้านคนทั่วโลกตกลงใจและร่วมปกป้องมหาสมุทรของโลกแล้ว แล้วคุณล่ะพร้อมปกป้องมหาสมุทรกับเราไหมร่วมเป็นหนึ่งคน หนึ่งเสียง เพื่อบอกกับผู้นำทั่วโลกให้ฟื้นฟูมหาสมุทรเพื่อโลกของพวกเรา

_____________________

Ellie Hooper เจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสารงานรณรงค์ด้านมหาสมุทร กรีนพีซนิวซีแลนด์

บทความนี้เรียบเรียงจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ สามารถอ่านต้นฉบับได้ที่นี่

Humpback Whale in the Indian Ocean. © Paul Hilton / Greenpeace
ผลักดันเขตคุ้มครองทางทะเล

ด้วยวิกฤตหลายๆด้านที่กำลังคุกคามมหาสมุทร เราจึงจำเป็นต้องปกป้องมหาสมุทรโลกอย่างน้อย 1 ใน 3 ส่วนภายในปี พ.ศ.2573 

มีส่วนร่วม