เมื่อวันที่ 11 เมษายน พ.ศ.2562 ที่ผ่านมา เรือเอสเพอรันซา ของกรีนพีซได้ออกจากท่าเรือบริเวณแม่น้ำเธมส์ กรุงลอนดอน เพื่อเดินทางสำรวจมหาสมุทรจากขั้วโลกเหนือไปยังขั้วโลกใต้ ผ่านมหาสมุทรแอตแลนติก การสำรวจครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานรณรงค์ปกป้องมหาสมุทรโลก เพื่อเรียกร้องให้เกิด สนธิสัญญาทะเลหลวง (Global Ocean Treaty) ซึ่งเป็นแนวทางในการปกป้องมหาสมุทรอย่างน้อยร้อยละ 30 จากมหาสมุทรในโลกภายในปี พ.ศ.2573
ในการเดินทางสำรวจอันยาวนานถึง 11 เดือนนี้ เรือเอสเพอรันซาจะเปิดเผยให้เห็นถึงภัยคุกคามที่มหาสมุทรกำลังเผชิญอยู่ รวมถึงศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์เพื่อทำการบันทึกและหาแนวทางในการปกป้องระบบนิเวศในน่านน้ำสากล
ทั้งนี้ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่เรือเอสเพอรันซากำลังล่องเรือในเส้นทางระหว่างสหราชอาณาจักรกับหมู่เกาะอะโซร์ส ได้เดินทางผ่านพื้นที่ล่าปลากระโทงสีน้ำเงินแอตแลนติก พื้นที่ดังกล่าวถือเป็นภาพแทนของความล้มเหลวของการอนุรักษ์ ที่เราไม่สามารถอนุรักษ์ระบบนิเวศในมหาสมุทรและปกป้องสภาพภูมิอากาศจากภัยคุกคามได้เลย
การล่าฉลาม เป็นปัญหาเรื้อรังที่ไม่ได้รับการกล่าวถึง อีกทั้งยังไม่สามารถรวบรวมข้อมูลเป็นสถิติตัวเลขได้ชัดเจน จากรายงานล่าสุดประเมินว่ามีฉลามกว่า 100 ล้านตัว ถูกจับหรือถูกสังหารจากเครื่องมือประมงในทุกๆปี แม้ว่าฉลามจะไม่ใช่สัตว์น้ำเป้าหมายหลัก แต่ธุรกิจการค้าหูฉลามก็ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง การหยุดบริโภคคือหนทางของการแก้ไขปัญญานี้ แต่ทว่าหลายประเทศที่มีพลังกลับไม่ตื่นตัวในการยับยั้งธุรกิจนี้เท่าที่ควร แม้ว่าจะมีการรณงค์เรียกร้องให้ยุติธุรกิจการค้าหูฉลามมามากกว่า 10 ปี ด้วยเหตุนี้ การประกาศ สนธิสัญญาทะเลหลวง เพื่ออุดช่องโหว่ทางกฎหมายระหว่างประเทศ จะช่วยเร่งให้เกิดการปกป้องท้องทะเลและเอื้อต่อการฟื้นฟูประชากรฉลามได้อย่างจริงจังมากขึ้น
มาช่วยกันปกป้องมหาสมุทรของเรา และยุติการล่าฉลาม นักล่าผู้ช่วยรักษาสมดุลแห่งท้องทะเล
อ่านหรือดาวน์โหลดรายงาน ที่นี่
ด้วยความช่วยเหลือจากคุณ ทำให้เราสามารถใช้วิธีการที่สร้างสรรค์อย่างสันติ เปิดโปงการทำลายสิ่งแวดล้อม ช่วยให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้องมหาสมุทร ป่าไม้ แหล่งน้ำ อาหาร และสภาพภูมิอากาศ ซึ่งล้วนเป็นระบบพื้นฐานสำหรับทุกชีวิตบนโลกใบนี้