ไมโครบีดส์ (Microbeads) หรือ เม็ดบีดส์ คือชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของพลาสติกในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ยาสีฟัน น้ำยาทำความสะอาด และอื่น ๆ อีกมากมาย ส่วนใหญ่จะทำจากโพลีเอทิลีน แต่สามารถทำจากพลาสติกปิโตรเคมีอื่น ๆ ได้ เช่น โพลีโพรพิลีนและโพลีสไตรีน มีขนาดเล็กกว่า 0.5 มิลลิเมตร พอที่จะการผ่านระบบกรองน้ำได้อย่างง่ายดาย

คลิกอ่านหรือดาวน์โหลดภาพใหญ่ที่นี่

ไมโครบีดส์ส่งผลกระทบอะไรบ้าง

ในขณะที่ไมโครบีดส์มีคุณสมบัติในการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้ดีแต่เนื่องจากมันมีขนาดเล็กและทำมาจากพลาสติกจึงไม่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ เมื่อเราใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไมโครบีดส์ เช่น ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ไมโครบีดส์ ก็จะไหลลงท่อจากบ้านเรือน และลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ และเมื่อปนเปื้อนในแหล่งน้ำสัตว์น้ำก็จะกินมันเข้าไป และสุดท้ายไมโครบีดส์ก็จะย้อนกลับมาที่ผู้บริโภคอย่างพวกเรา

ผลการศึกษาของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ ระบุว่าการหลุดรอดของเม็ดไมโครบีดส์สู่แหล่งน้ำในรัฐนิวยอร์คเพียงรัฐเดียว คิดเป็นน้ำหนักประมาณ 19 ตันต่อปี และเมื่อไมโครบีดส์อยู่ในแหล่งน้ำ มันจะดูดซึมสารเคมีเป็นพิษต่าง ๆ โดยเฉพาะโพลีคลอริเนตไบฟีนิล (PCBs) ซึ่งเป็นกลุ่มสารเคมีอินทรีย์ที่มีคลอรีนเป็นองค์ประกอบ สารเคมีเหล่านี้จะส่งผลต่อร่างกายโดยไปขัดขวางการทำงานของต่อมไร้ท่อและเป็นสารก่อมะเร็ง

แล้วเราจะใช้อะไรเพื่อทดแทนไมโครบีดส์

ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติหลายชนิดที่มีคุณสมบัติเทียบเท่าหรือดีกว่าไมโครบีดส์ เช่น การใช้สครับจากเกลือ มะขามเปียก หรือผงถั่วเขียว เพราะนอกจากจะปลอดภัยต่อผู้ใช้แล้วยังปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

พิจารณาสักนิดก่อนคิดที่จะซื้อ

หลายประเทศมีการรณรงค์เลิกใช้ไมโครบีดส์แล้ว เพราะตระหนักถึงผลกระทบต่าง ๆ ที่ตามมา เพราะฉะนั้นก่อนการเลือกซื้อเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ครั้งต่อไปเราควรพิจารณาให้แน่ใจก่อนว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้นไม่มีส่วนผสมของไมโครบีดส์


ออกแบบภาพโดย ธีรธัญภัค เหลืองอุบล อาสาสมัครกรีนพีซ