กรุงเทพฯ, 12 ตุลาคม 2562– กรีนพีซประเทศไทยในฐานะเป็นหนึ่งในเครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรง 686 องค์กรเรียกร้องรัฐบาล และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีมติยกเลิกพาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซตในประเทศไทยโดยเร่งด่วนที่สุด พร้อมกับขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เกษตรอินทรีย์แห่งชาติให้ชัดเจนและเป็นรูปธรรมภายใต้กรอบการพัฒนาที่ยั่งยืน เกษตรกรรมยั่งยืน รวมถึงการให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางชีวภาพ ความเป็นธรรมระหว่างเกษตรกรรายย่อยกับผู้ประกอบการ

ระบบอาหารเชิงอุตสาหกรรมกำลังคุกคามสุขภาพของทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิต โดยมีการใช้สารเคมีเป็นปัจจัยหลักในการทำการเพาะปลูกพืชเชิงเดี่ยวในปริมาณมาก พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซตเป็นสารเคมีกำจัดวัชพืชที่สามารถตกค้างได้ในสิ่งแวดล้อม อาหาร น้ำดื่ม หรือแม้แต่ในร่างกายของคนและถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกได้ โดยคณะกรรมการวัตถุอันตราย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำเป็นต้องเด็ดขาดในการเลือกตัดสินใจเพื่อปกป้องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม และจะต้องดำเนินการห้ามใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายนี้กับอาหารของประชาชน

“ภาครัฐจำเป็นต้องสร้างความเข้าใจในกลุ่มเกษตรกรและผู้บริโภคมากขึ้น ถึงปัญหาและผลกระทบจากการใช้สารเคมีอันตรายอย่างพาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต โดยเฉพาะต่อเกษตรกรเกี่ยวกับวิธีทางเลือกในการทำเกษตรผสมผสาน ปรับตัวไปสู่การปลูกพืชที่ไม่ต้องพึ่งพา 3 สารพิษร้ายแรง เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับเกษตรกรที่มุ่งเปลี่ยนวิถีการทำเกษตรสู่วิธีที่ปลอดภัย” รัตนศิริ กิตติก้องนภางค์ ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านอาหารและเกษตรกรรมเชิงนิเวศ กรีนพีซประเทศไทย กล่าว

เกษตรกรรมเชิงนิเวศที่มีการรักษาสมดุลของสิ่งแวดล้อมนั้นช่วยส่งเสริมวิถีชีวิตของเกษตรกรได้โดยไม่ต้องพึ่งพาสารเคมีอันตราย บทบาทที่สำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คือการชี้แนะสารอินทรีย์ทดแทน วิธีการจัดการวัชพืชแบบชีวภาพ โดยมีการสนับสนุนด้านอุปกรณ์การเกษตร เช่น เครื่องจักรกล ผ่านกองทุนและสนับสนุนการกู้ยืมดังที่เคยสนับสนุนในกรณีการทำเกษตรโดยใช้สารเคมีและเพื่ออุตสาหกรรม เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนสู่การทำเกษตรที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง ทั้งต่อผู้ผลิต ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อมที่เราอยู่อาศัย

กรีนพีซประเทศไทยเรียกร้องให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีมติตอบรับเสียงเรียกร้องของประชาชนยกเลิกและควบคุมการใช้พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซตในประเทศไทย โดยเร่งด่วนที่สุด