ซิดนีย์, 8 มีนาคม 2567 — หน่วยงานอุทยานทางทะเล Great Barrier Reef ยืนยันอย่างเป็นทางการในวันนี้ว่า สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกนี้ถูกคุกคามจากเหตุการณ์ฟอกขาวครั้งที่ 7 โดยในช่วงเวลา 8 ปี ที่ผ่านมา ได้เกิดการฟอกขาวขนาดใหญ่ไปแล้ว 5 ครั้ง


การยืนยันนี้เป็นคําเตือนที่น่าตระหนกถึงอนาคตของระบบนิเวศทางทะเลที่เป็นหนึ่งเดียวของออสเตรเลีย ในแถลงการณ์ทางวิดีโอ Tanya Plibersek รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมกล่าวว่ารัฐบาลออสเตรเลียกําลังทําทุกวิถีทาง “เพื่อปกป้องแนวปะการังที่สวยงามของเราให้มีโอกาสรอดอย่างดีที่สุด” อย่างไรก็ตาม ออสเตรเลียเป็นผู้ส่งออกเชื้อเพลิงฟอสซิลรายใหญ่อันดับสามของโลกและมีส่วนสําคัญต่อวิกฤตสภาพภูมิอากาศ


เดวิด ริทเทอร์ (David Ritter) ผู้อำนวยการบริหาร กรีนพีซออสเตรเลีย-แปซิฟิก กล่าวว่า ในขณะที่เราคาดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น การยืนยันอย่างเป็นทางการว่ามีการฟอกขาวครั้งใหญ่ของแนวปะการังเกรท แบริเออร์เป็นครั้งที่เจ็ดถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องตระหนกมากๆ
“เมื่อสามสัปดาห์ก่อน ผมดําน้ําตื้นเหนือแนวปะการังเกรท แบริเออร์นอกเมืองแคนส์ ซึ่งสวยงามมาก แต่เราเห็นขั้นตอนเริ่มต้นของเหตุการณ์ฟอกขาว มีปะการังฟอกขาวเป็นหย่อมๆ ในทะเลแถบนั้น


“เรารู้ว่าวิกฤตสภาพภูมิอากาศก่อคลื่นความร้อนทางทะเลที่ร้ายแรงและกำลังทําลายล้างระบบนิเวศทางทะเลของเรา แต่ความถี่และขนาดที่เหตุการณ์ปะการังฟอกขาวขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นนั้นน่ากลัว ทุกๆ ฤดูร้อน เราต้องลุ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้น


“ปี 2566 แนวปะการังเกรท แบริเออร์หลุดจากรายชื่อมรดกโลกทางธรรมชาติที่อยู่ในอันตราย (In Danger) อย่างหวุดหวิด รัฐบาลออสเตรเลียสัญญาว่าจะทําทุกอย่างที่ทําได้เพื่อปกป้องแนวปะการังเกรท แบริเออร์ ปฏิบัติการนี้ต้องรวมถึงการจัดการกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศในฐานะภัยคุกคามต่อแนวปะการัง และรับรองว่าแผนการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ของออสเตรเลียจะสอดคล้องกับขีดจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลก 1.5 องศาเซลเซียส
“เราจะอ้างว่าออสเตรเลียปกป้องดูแลแนวปะการังเกรท แบริเออร์อย่างจริงจังได้อย่างไร ในเมื่อเรายังคงขยายและอุดหนุนอุตสาหกรรมถ่านหินและก๊าซฟอสซิลด้วยเงินกว่าพันล้านเหรียญออสเตรเลียทุกปี รัฐบาลออสเตรเลียไม่อาจหลับตาข้างหนึ่งอนุมัติโครงการขุดเจาะก๊าซฟอสซิลที่ Woodside ซึ่งนำไปสู่ความปั่นป่วนทางสภาพภูมิอากาศ แล้วก็บอกว่ารัฐบาลคำนึงถึงอนาคตของแนวปะการังเกรท แบริเออร์”

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ Kate O’Callaghan ที่ 0406 231 892 หรือ [email protected]