ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 13 ธันวาคม 2566 – ต่อผลลัพธ์สุดท้ายของ COP28 ที่สิ้นสุดลง Kaisa Kosonen กรีนพีซ สากล กล่าวว่า “นี่คือสัญญาณที่อุตสาหกรรมฟอสซิลเกรงกลัว : การยุติยุคเชื้อเพลิงฟอสซิล พร้อมกับการเรียกร้องให้ขยายระบบพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดและเป็นธรรมตลอดจนประสิทธิภาพทางพลังงานอย่างใหญ่หลวงภายในทศวรรษนี้ แต่กลับถูกกลบเกลื่อนโดยแนวทางที่เป็นอันตรายต่างๆ และไม่มีวิธีการเพียงพอที่จะบรรลุเป้าหมายบนพื้นฐานของความเป็นธรรมและทันท่วงที

คุณจะไม่พบคําว่า “ปลดระวาง(phase out)” ในเนื้อหาสุดท้ายที่เห็นชอบร่วมกันใน COP28 แต่คำว่า “ปลดระวาง(phase out)” นั่นแหละที่เป็นการเปลี่ยนผ่านอย่างเท่าเทียมกันที่สอดคล้องกับเป้าหมายขีดจำกัดอุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลก 1.5 °C และวิทยาศาสตร์จะมีความจําเป็นเมื่อดําเนินการอย่างยั่งยืน และนั่นคือสิ่งที่เราตั้งใจแน่วแน่ที่จะทําให้เกิดขึ้น มากกว่าที่เคยเป็นมา

ผลลัพธ์ของ COP28 นี้ทําให้กลุ่มประเทศที่ยากจนต้องขาดแคลนทรัพยากรที่จําเป็นในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบพลังงานหมุนเวียนและความต้องการอื่นๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายหลายประการของความตกลงที่ COP28 กลุ่มประเทศร่ํารวยต้องเพิ่มการสนับสนุนทางการเงินอย่างมีนัยสําคัญและทําให้ผู้ก่อมลพิษจากเชื้อเพลิงฟอสซิลต้องมีภาระรับผิดและชดเชย เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลทํากําไร 4 ล้านล้านดอลลาร์ และพวกเขาจําเป็นต้องเริ่มจ่ายเงินจากภยันตรายและการทําลายล้างที่ก่อขึ้น

ผลลัพธ์ของ COP28 ไม่ถือว่าเป็นความตกลงทางประวัติศาสตร์ที่โลกต้องการ : มีช่องโหว่และข้อบกพร่องมากมาย แต่การสร้างประวัติศาสตร์จะเกิดขึ้นหากประเทศภาคีเกือบ 130 ประเทศ กลุ่มธุรกิจ ผู้นําท้องถิ่น และเสียงของภาคประชาสังคม ซึ่งรวมตัวกันเพื่อสร้างพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยมีมาก่อน และขณะนี้มีความมุ่งมั่นเพื่อทําให้ “การปลดระวาง(phase out)” เชื้อเพลิงฟอสซิลเกิดขึ้น สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดคือยุติการขยายโครงการต่างๆ ทั้งหมดที่ทำให้เราไปสู่จุดที่เกินขีดจํากัดอุณหภูมิ 1.5 °C ในทันที”

กีห์วา นาคัท ผู้อำนวยการบริหาร กรีนพีซ ตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ กล่าวว่า

“COP28 ได้ส่งสัญญาณที่ไม่เคยมีมาก่อนต่อทั้งโลกว่า ข้อเรียกร้องเพื่อยุติยุคเชื้อเพลิงฟอสซิลนั้นได้ถูกยกระดับขึ้น เราเห็นความพยายามของประธาน COP ที่สรุปด้วยการตระหนักถึงความจําเป็นในการเปลี่ยนผ่านจากเชื้อเพลิงฟอสซิลและระดมเงินทุนด้านสภาพภูมิอากาศมากกว่า 700 ล้านดอลลาร์ที่ใช้ในการดำเนินงานกองทุนการสูญเสียและความเสียหาย(Loss and Damage Fund) แต่ชุมชนที่อยู่แนวหน้าของภัยพิบัติจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศต้องการเห็นมากกว่านี้ นั่นคือความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่เพื่อปลดระวางเชื้อเพลิงฟอสซิลทั้งหมดอย่างทันท่วงที เท่าเทียม และมีการสนับสนุนทางการเงินเป็นอย่างดี ร่วมกับแพ็คเกจทางการเงินที่ครอบคลุมสําหรับกลุ่มประเทศกําลังพัฒนาเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบพลังงานหมุนเวียนและรับมือกับผลกระทบจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้น เราออกจากดูไบโดยรู้ว่าพอมีความหวังแต่ภารกิจของเราเป็นเส้นทางที่ยังอีกยาวไกล!”


ข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ :

Gaby Flores, [email protected], +1 214 454 3871

โต๊ะข่าว กรีนพีซ สากล: [email protected] โทร.+31 (0) 20 718 2470 (ตลอด 24 ชั่วโมง)