ความคาดหวังในการเจรจาด้านสภาพภูมิอากาศ (COP28) ที่ดูไบ

การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 28 (COP28) จะจัดขึ้นในช่วงปลายปีที่มีอุณหภูมิทําลายสถิติและสภาวะสุดขั้วจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ปีที่นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพภูมิอากาศของโลกร่วมกันระบุถึงความต้องการที่ชัดเจนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงให้มากที่สุดและในทันทีเพื่อจํากัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลกไม่เกิน 1.5ºC และแนวทางในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวและยังเป็นปีที่ทบวงพลังงานระหว่างประเทศกําหนดแนวทางที่จำกัดลงแต่เป็นไปได้เพื่อบรรลุเป้าหมายขีดจำกัดอุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลก 1.5ºC โดยลดเชื้อเพลิงฟอสซิลลงและเร่งเพิ่มระบบพลังงานหมุนเวียน

สาเหตุและผลกระทบที่ตามมาของวิกฤตสภาพภูมิอากาศไม่เคยชัดเจนเท่านี้มาก่อน และทางออกก็ไม่เคยอยู่แค่เอื้อมเท่านี้มาก่อน เชื้อเพลิงฟอสซิลกําลังฆ่าเรา ขณะที่ระบบพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดและเป็นธรรมได้มอบอนาคตที่ดีกว่าสําหรับทุกคน ทว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้นและการขยายการผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลตามแผนนั้นไม่สอดคล้องกับทิศทางของความก้าวหน้าที่จําเป็น ในขณะที่การสนับสนุนทางการเงินเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเพื่อจัดการกับผลกระทบของวิกฤตสภาพภูมิอากาศยังคงไม่เพียงพออย่างยิ่ง

COP28 เป็นหมุดหมายของบททดสอบภาวะวิกฤตที่สําคัญสําหรับความตกลงปารีส จะเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับข้อเท็จจริง ปรับทิศทางให้ถูกต้อง และเปิดโอกาสที่แท้จริงให้กับทางออกจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

สิ่งที่เราต้องการจาก COP28

1. COP28 ที่นครดูไบเป็นการประชุมที่ประเทศต่างๆ จะต้องตกลงกันในท้ายที่สุดเพื่อปลดแอกโลกจากเชื้อเพลิงฟอสซิล เป็นเวลาที่ผู้นำโลกทั้งหลายจะตัดสินใจยุติการขยายถ่านหิน น้ำมันและก๊าซฟอสซิล เร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบพลังงานหมุนเวียนที่เป็นธรรม และการจัดการปลดระวางเชื้อเพลิงฟอสซิล

2.การทบทวนสถานการณ์และการดำเนินงานระดับโลก(Global Stocktake) ที่ COP28 ต้องจบลงด้วยการเริ่มต้นปฏิบัติการเปลี่ยนผ่านในทุกภาคส่วนเพื่อบรรลุเป้าหมายขีดจำกัดอุณหภูมิ 1.5 องศาเซลเซียส และการรับมือกับผลกระทบของวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

3. ความสําเร็จที่ COP28 จะเป็นไปได้ด้วยแพ็คเกจทางการเงินที่น่าเชื่อถือซึ่งสอดคล้องกับความต้องการในโลกแห่งความเป็นจริง รวมถึงการเปิดตัวกองทุนใหม่ว่าด้วยความสูญเสียและเสียหาย(Loss and Damage Fund) และทําให้ผู้ก่อมลพิษหลักต้องจ่ายและมีภาระรับผิดต่อการทำลายและคุกคามสภาพภูมิอากาศโลกนั้นเป็นจริงมากขึ้น

ต่อไปนี้เป็นรายละเอียดข้อเรียกร้องของกรีนพีซ หรือดูข้อสรุปเชิงนโยบายของกรีนพีซฉบับเต็ม

ยุติยุคเชื้อเพลิงฟอสซิลหรือเป้าหมายขีดจำกัดอุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลกที่ 1.5 องศาเซลเซียส

เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดของวิกฤตสภาพภูมิอากาศและทำให้เป้าหมายขีดจำกัดอุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลกที่ 1.5 องศาเซลเซียสให้อยู่ใกล้แค่เอื้อม ประเทศภาคีที่เข้าร่วม COP28 ต้องทำให้เชื้อเพลิงฟอสซิลกลายเป็นอดีต ความตกลงระดับโลกจะต้องเกิดขึ้นทันทีเพื่อยุติการขยายตัวของน้ํามัน ถ่านหิน และก๊าซฟอสซิลแห่งใหม่ และเร่งปลดระวางเชื้อเพลิงฟอสซิลทั้งหมด

ผลลัพธ์ที่ทรงพลังจากการประชุม COP28 ว่าด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิลรวมถึง

  • ความมุ่งมั่นที่จะยุติการขยายตัวของเชื้อเพลิงฟอสซิลแห่งใหม่ในทันที
  • ความมุ่งมั่นในการปลดระวางเชื้อเพลิงฟอสซิลที่มีอยู่อย่างรวดเร็ว เป็นธรรม และเต็มที่ – ด้วยแผนงาน กลไกว่าด้วยภาระรับผิดที่ชัดเจน และความคาดหวังว่าความมุ่งมั่นดังกล่าวนี้จะดําเนินการผ่านแผนระดับชาติที่มีอยู่ภายใต้แผนที่นำทางลดก๊าซเรือนกระจก(Nationally Determined Contributions)
    • รวดเร็ว – เข้าถึงระบบพลังงานที่ปราศจากฟอสซิลอย่างช้าที่สุดภายในปี 2593 พร้อมความก้าวหน้าที่สําคัญของการลดการผลิตและการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลที่มีการจัดการเป็นอย่างดีภายในปี 2573
    • เป็นธรรม – ทุกประเทศภาคีมุ่งมั่นที่จะดําเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่พร้อมกับกลุ่มประเทศร่ำรวยที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกนับตั้งแต่อดีตนั้นต้องดำเนินการเร็วที่สุดและให้การสนับสนุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นสําหรับการเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรมไปสู่ระบบพลังงานหมุนเวียนในกลุ่มประเทศที่ยากจนกว่า
    • เต็มที่ – มีการปลดระวาง(phase out) ไม่ใช่แต่เพียงลด(phase down) เชื้อเพลิงฟอสซิลทั้งหมด คําสัญญาใด ๆ ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีการลด(abatement technologies) นั้นจะไม่นำมาใช้เป็นใบอนุญาตเพื่อขยายโครงการเชื้อเพลิงฟอสซิลต่อไป หรือใช้เพื่อชะลอการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบพลังงานหมุนเวียน และจะไม่นำเอาการปกป้องและฟื้นฟูผืนป่าและระบบนิเวศต่างๆ ที่เป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนสูง มาเป็นข้ออ้างเพื่อหลีกเลี่ยงการปลดระวางเชื้อเพลิงฟอสซิล
  • ความมุ่งมั่นในการเพิ่มระบบพลังงานหมุนเวียนเป็นสามเท่าและเพิ่มประสิทธิภาพทางพลังงานเป็นสองเท่านั้นมีความจําเป็น แต่ยังไม่เพียงพอหากปราศจากความมุ่งมั่นที่จะปลดระวางเชื้อเพลิงฟอสซิลด้วย
  • ความมุ่งมั่นต่อการเมืองที่ปราศจากอิทธิพลของอุตสาหกรรมฟอสซิล – COP28 จะต้องมีความก้าวหน้าที่ไปไกลมากขึ้นในการปฏิรูปเพื่อจัดการกับอิทธิพลของอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลในการเมืองด้านสภาพภูมิอากาศระดับโลกและระดับชาติ

การปรับแก้แนวทางที่มุ่งการเปลี่ยนผ่าน หรือให้เป็นไปตามยถากรรม

COP28 เป็นหมุดหมายของบททดสอบภาวะวิกฤตที่สําคัญสําหรับความตกลงปารีส จะเกี่ยวกับการที่ทั่วโลกต้องเผชิญหน้ากับข้อเท็จจริง ซึ่งก็คือวิกฤตสภาพภูมิอากาศและผลกระทบ และจะต้องปรับทิศทางให้ถูกต้อง และเปิดโอกาสที่แท้จริงให้กับทางออกจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ