กลุ่มบรรษัทต้องเปลี่ยนความล้มเหลวเป็นการลงมือทำที่มีประสิทธิภาพเพื่อต่อกรกับวิกฤตมลพิษพลาสติก

กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร : ความเห็นจากกรีนพีซต่อรายงาน Ellen MacArthur ฉบับใหม่ที่มีชื่อว่า ‘The Global Commitment Five Years In:Perspective On Progress’  และ 2022/23 progress report for Global Commitment signatories หลุยส์ เอดจส์ หัวหน้าทีมรณรงค์จับตาบรรษัทระดับโลก กรีนพีซ สหราชอาณาจักร กล่าวว่า

“สิ่งที่ชัดเจนหลังจากทบทวนรายงานดังกล่าวนี้คือยุทธศาสตร์ในการกู้วิกฤตมลพิษพลาสติกของกลุ่มบรรษัทที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนั้นล้มเหลว ในช่วง 5 ปีหลังจากหลังจากมีการตกลงเพื่อเจรจาถึงเนื้อหาในสนธิสัญญาพลาสติกโลก  วิกฤตมลพิษพลาสติกยิ่งเพิ่มขึ้นทวีคูณและกำลังทำร้ายสุขภาพของเรา เป็นภัยคุกคามต่อสัตว์ป่า ชุมชน และสภาพภูมิอากาศ ขณะที่ กลุ่มบรรษัทขนาดใหญ่มีแนวโน้มที่จะผลิตพลาสติกเพิ่มสูงขึ้นและไม่มีท่าทีว่าจะลดการผลิตลงแต่อย่างใด

“กลุ่มบรรษัทขนาดใหญ่เช่น ยูนิลีเวอร์ (Unilever) เนสท์เล่ (Nestle) และ โค้ก (Coke) ต้องยอมรับแล้วว่า การรีไซเคิลเป็นหนทางที่ล้มเหลว ไม่สามารถจัดการกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากพลาสติกได้ แต่ทางออกที่แท้จริงนั่นคือการยุติการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งและเปลี่ยนไปใช้ระบบใช้ซ้ำและการเติม นอกจากนี้กลุ่มบรรษัทจะต้องหยุดการขายสินค้าที่เต็มไปด้วยบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่เป็นมลพิษ และกำลังกลายเป็นวิกฤตต่อกลุ่มประเทศซีกโลกใต้ ส่งผลกระทบต่อชุมชนท้องถิ่นและแหล่งน้ำจำนวนมาก

การเจรจาสนธิสัญญาพลาสติกโลกนี้เป็นโอกาสสำคัญที่คนรุ่นเราจะสร้างเปลี่ยนแปลงเพื่อกู้วิกฤตมลพิษพลาสติกอย่างแท้จริง และกลุ่มบรรษัทก็ควรจะใช้โอกาสนี้สนับสนุนมาตรการที่จะยุติการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งและลงทุนในระบบใช้ซ้ำเป็นหลัก รวมทั้งร่วมเรียกร้องให้ทั่วโลกมีเป้าหมายลดการผลิตพลาสติกลงอย่างน้อย 75% ภายในปี 2583

สำหรับสื่อมวลชน ติดต่อ

Daniel Jones, Plastics Press Officer, Greenpeace UK
[email protected], +44 (0)20 7865 8255