เจนีวา – นักกิจกรรมด้านสภาพภูมิอากาศกว่าร้อยคนจาก กรีนพีซ (Greenpeace) สเตย์ กราวด์ (Stay Grounded) เอ็กสติงชั่น รีเบลเลียน (Extinction Rebellion) ซายน์แอนทิส รีเบลเลียน (Scientist Rebellion) และกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสภาพภูมิอากาศอีกกว่า 17 ประเทศ เข้าประท้วงในมหกรรมการซื้อขายเครื่องบินส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป หรืองาน European Business Aviation Convention & Exhibition (EBACE) ในกรุงเจนีวา เพื่อเรียกร้องให้ยุติการใช้เครื่องบินส่วนตัว (private jet) กิจกรรมที่เกิดขึ้นนี้ต่อเนื่องมาจากการประท้วงคัดค้านการใช้เครื่องบินส่วนตัว ก่อนหน้านี้ที่ท่าอากาศยานอัมสเตอร์ดัมสคิปโฮล กิจกรรมนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของงานรณรงค์ ‘Make Them Pay’ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้อีกด้วย [1]

© C. Thomas Wolf/Stay Grounded

นักกิจกรรมเข้ายึดเครื่องบินส่วนตัวลำหนึ่งที่จัดแสดงในงาน (ณ ท่าอากาศยานเจนีวา) อย่างสันติ โดยล่ามโซ่ตัวเองเข้ากับบันไดขึ้นเครื่องและประตูทางเข้างานเพื่อไม่ให้ผู้ที่มาชมงานเดินเข้าไปในบริเวณงานได้ นักกิจกรรมหลายคนประท้วงด้วยป้ายที่มีสัญลักษณ์คล้าย ห้ามสูบบุหรี่ แต่เปลี่ยนจากบุหรี่เป็นรูปเครื่องบินส่วนตัวแทน เพื่อสื่อสารว่าเครื่องบินส่วนตัวก่อให้เกิดมลพิษ รวมทั้งยังเป็นการเตือนว่า ‘เครื่องบินส่วนตัวกำลังเผาทำลายอนาคตของเรา’ , ‘กำลังฆ่าโลกของเรา’ และ ‘ความไม่เป็นธรรมด้านเชื้อเพลิง’ หลังจากนั้นนักกิจกรรมได้ใช้โทรโข่งพูดถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการใช้เครื่องบินส่วนตัวต่อสภาพภูมิอากาศ และเปิดโปงเล่ห์เหลี่ยมที่ใช้สนับสนุนการใช้เครื่องบินส่วนตัวซึ่งสร้างความไม่เท่าเทียมทางสังคม

คลารา มาเรีย เชงค์ (Klara Maria Schenk) นักรณรงค์ในโครงการ Mobility for All กรีนพีซ กล่าวว่า “เป็นเวลากว่า 20 ปี แล้วที่กลุ่มคนร่ำรวยในยุโรปเฉลิมฉลองความสำเร็จจากงาน EBACE ขณะเดียวกันก็ซื้อขายเครื่องบินส่วนตัวที่ก่อมลพิษมหาศาล อัตราการซื้อเครื่องบินส่วนตัวพุ่งทะยานสูงขึ้น เช่นเดียวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสภาพภูมิอากาศด้วย โดยยานพาหนะชนิดนี้มีประชากรเพียง 1% เท่านั้นที่เข้าถึงและได้ใช้ ซึ่งก่อให้เกิดมลพิษมากกว่าประชากรที่เหลือ นี่จึงกลายเป็นความไม่เป็นธรรมทางสภาพภูมิอากาศ ถึงเวลาแล้วที่นักการเมืองจะต้องหยุดความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นด้วยการแบนการใช้เครื่องบินส่วนตัวที่ก่อมลพิษมากเกินไป”

มิรา แคพฟิงเกอร์ (Mira Kapfinger) นักรณรงค์จากสเตย์กราวนด์ (Stay Grounded) เครือข่ายที่มีสมาชิกมากกว่า 200 คน กล่าวว่า “ขณะที่ประชาชนมากมายไม่สามารถเข้าถึงอาหารหรือแม้กระทั่งการเช่าที่อยู่อาศัย แต่กลุ่มคนร่ำรวยกลับกำลังทำลายโลกของเราและเราจะต้องหยุดวงจรนี้ นอกจากจะต้องแบนการใช้เครื่องบินส่วนตัวแล้ว ตอนนี้จะต้องหยุดระบบสะสมไมล์ซึ่งเปรียบเสมือนกับการให้รางวัลจากการบินและแทนที่ด้วยการเก็บภาษีกับผู้บินแทน นี่คือทางออกในการแก้วิกฤตสภาพภูมิอากาศที่เราต้องการ”

คอร์ดูลา มาร์เก็ต (Cordula Markert) โฆษกจากกลุ่มซายน์แอนทิส รีเบลเลียน (Scientist Rebellion) เยอรมนี กล่าวว่า “เราอยู่ท่ามกลางภาวะฉุกเฉินสภาพภูมิอากาศ ดังนั้นเราจะไม่ยอมให้กลุ่มคนรวยระดับมหาเศรษฐีพากันมาที่อีเวนท์อย่างเช่นงาน EBACE และยังคงซื้อและใช้เครื่องบินส่วนตัวเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวอีกต่อไป ขณะเดียวกัน ตอนนี้เรารู้อยู่แล้วว่าเชื้อเพลิงที่ขับเคลื่อนเครื่องบินเหล่านี้ทำลายสภาพภูมิอากาศ ซึ่งกำลังคุกคามชีวิตพวกเรา พวกเขาจำเป็นต้องหยุด นี่จึงเป็นเหตุผลที่นักวิทยาศาสตร์และนักกิจกรรมจากทั่วยุโรปมาทำกิจกรรมร่วมกันที่เจนีวาเพื่อส่งสัญญาณคัดค้านความบ้าคลั่งที่เกิดขึ้น”

โจเอล เพอร์เรท (Joël Perret) โฆษกจากกลุ่ม เอ็กสติงชั่น รีเบลเลียน (Extinction Rebellion) เจนีวา กล่าวว่า “เจนีวาคือสถานที่ที่มีท่าอากาศยานและมีการใช้เครื่องบินส่วนตัวมากที่สุดในยุโรปแห่งหนึ่ง ดังนั้นที่นี่จึงควรเป็นจุดที่เราจะสร้างการเปลี่ยนแปลง เราจำเป็นต้องลดการใช้เครื่องบินในอุตสาหกรรมการบินเพื่อหยุดยั้งภัยพิบัติที่เกิดจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศและหยุดการทำลายชีวิตประชาชน ซึ่งขั้นแรกก็คือการหยุดการใช้เครื่องบินส่วนตัวทันที”

ปีนี้มีการคาดการณ์ว่ายอดขายเครื่องบินส่วนตัวจะพุ่งสูงสุด ซึ่งจะเพิ่มภาระให้กับโลกของเรา[2] จากรายงานฉบับล่าสุดระบุว่า ทั่วโลกมีปริมาณเครื่องบินส่วนตัวมากขึ้นกว่าสองเท่าจาก 20 ปีที่ผ่านมา [3][4] โดยมูลค่ารวมของเครื่องบินส่วนตัวที่ขายไปในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จากการประเมินของอุตสาหกรรมการบินอยู่ที่ราว 241,000 ล้านเหรียญสหรัฐ [5]

มหกรรม EBACE เป็นงานซื้อขายของธุรกิจการบินที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและยังเป็นมหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยทั้งผู้ซื้อ ผู้ขายจะมารวมตัวกันโดยมีเจ้าภาพเป็นอุตสาหกรรมเครื่องบินส่วนตัวสัญชาติยุโรปและสหรัฐ คือกลุ่ม EBAA และ NBAA ซึ่งครึ่งหนึ่งของปริมาณผู้เข้าชมทั้งหมด 10,000 คนเป็นเจ้าของเครื่องบินส่วนตัว [6]

จากการศึกษาที่ผ่านมาระบุว่า เครื่องบินส่วนตัวปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงกว่าเครื่องบินพาณิชย์โดยคำนวนการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อผู้โดยสาร 1 คนแล้ว เครื่องบินส่วนตัวปล่อยมลพิษมากกว่า 10 เท่า และยังเป็นสาเหตุของมลพิษทางเสียงและมลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็ก (micro-particle pollution) ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพของประชาชน สิ่งแวดล้อม และสภาพภูมิอากาศ [7] [8] การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวสูงที่สุดทุบสถิติของยุโรป และจากการวิจัยที่สนับสนุนโดย กรีนพีซ ยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก (Eastern Europe : CCE) ระบุว่าขณะที่กลุ่มคนร่ำรวยสามารถมีวิถีชีวิตการเดินทางที่ก่อมลพิษสูง เพียงเพื่อประหยัดเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่จากรายงานของ โบอิ้ง (Boeing) ระบุว่าทั่วโลกมีประชาชนกว่า 80% ที่ไม่เคยใช้เครื่องบินในการเดินทางแต่กลับได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ [9] ทั้งนี้ยังมีวิจัยจาก อ็อกแฟม (Oxfam) ที่ชี้ให้เห็นว่ามีประชากรกว่า 20 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วทุก ๆ ปี ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนที่อยู่อาศัยหรือเสียชีวิตจากภัยแล้งและน้ำท่วมจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงขึ้น [10]

ปัจจุบันภาครัฐของยุโรปไม่ได้เข้ามาควบคุมการปล่อยมลพิษของเครื่องบินส่วนตัวจากวิถีชีวิตที่หรูหรา รวมถึงไม่ได้ถูกรวมเข้าไปในกรอบกฎหมายที่จะจัดการกับการปล่อยมลพิษของสภาพยุโรป [11] การไม่เข้าควบคุมประเด็นเครื่องบินส่วนตัวนี้ทำให้เกิดความเข้าใจว่าเครื่องบินส่วนตัวไม่ก่อมลพิษร้ายแรง ทั้ง ๆ ที่การเดินทางรูปแบบนี้เป็นรูปแบบการขนส่งที่สิ้นเปลืองพลังงานมากที่สุด ก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียมเมื่อเทียบกับผู้โดยสาร 1 คนต่อ 1 กิโลเมตร


  • โฆษกจาก กรีนพีซ (Greenpeace) สเตย์กราวนด์ (Stay Grounded) ซายน์แอนทิส รีเบลเลียน (Scientist Rebellion) เอ็กสติงชั่น รีเบลเลียน (Extinction Rebellion) สามารถให้สัมภาษณ์ในภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมัน
  • สามารถดาวน์โหลดภาพกิจกรรมได้ ที่นี่
  • ดาวน์โหลดข้อมูลสำหรับสื่อมวลชนเกี่ยวกับการขับเคลื่อนด้านสภาพภูมิอากาศของเครือข่าย ที่นี่

หมายเหตุ

กิจกรรมนี้ไม่ใช่การสร้างความปั่นป่วนให้กับท่าอากาศยานพาณิชย์ของเจนีวา นักกิจกรรมตกลงกันว่าจะไม่เข้าไปในพื้นที่รันเวย์เครื่องบินโดยเด็ดขาด แต่จะอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้คนเข้าไปเท่านั้น  และไม่ได้รบกวนการทำงานด้านความปลอดภัยของสายการบิน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สนามบิน (ทั้งภาคพื้นและเจ้าหน้าที่ตำรวจ) ได้รับแจ้งจากนักกิจกรรมทันทีเมื่อเริ่มกิจกรรมและตลอดกิจกรรมก็มีการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เป็นอันตรายหรือความเข้าใจผิดจากเจ้าหน้าที่สนามบินเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของกิจกรรมและขอบเขตในการทำกิจกรรม

[1] 20+ Actions against Private Jets – Stay Grounded

[2] Private jet sales likely to reach highest ever level this year, report says | The Guardian 

[3] Report: High Flyers 2023: How Ultra-Rich Private Jet Travel Costs the Rest of Us and Burns Up the Planet – Institute for Policy Studies

[4] General Aviation Aircraft Shipment Report 

[5] Quarterly Shipments and Billings – GAMA

[6] 2023 European Business Aviation Convention & Exhibition

[7] Transport & Environment (2021). Private jets: can the super rich supercharge zero-emission aviation? 

[8] Nonvolatile Particulate Matter Emissions of a Business Jet Measured at Ground Level and Estimated for Cruising Altitudes – PubMed 

[9] Boeing CEO: Over 80% of the world has never taken a flight. We’re leveraging that for growth 

[10] Climate fuelled disasters number one driver of internal displacement globally forcing more than 20 million people a year from their homes | Oxfam International 

[11] Bewältigung der Klimakrise: Schluss mit den Ausnahmen für Superreiche 

ติดต่อข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน

กรีนพีซ

Klara Maria Schenk, transport campaigner for Greenpeace Central and Eastern Europe, +43 (0)664 88 17 22 67, [email protected]

สเตย์กราวนด์ (Stay Grounded)

Mira Kapfinger, campaigner for Stay Grounded, +41 79 772 6423

Stay Grounded press desk, +43 (0)670 3534311, [email protected]

เอ็กสติงชั่น รีเบลเลียน (Extinction Rebellion)

Joël Perret, Extinction Rébellion Genève, +41 (0)79 664 03 37, [email protected]

ซายน์แอนทิส รีเบลเลียน (Scientist Rebellion)

Cordula Markert, Scientist Rebellion Germany, +49 151 41625284, [email protected]