อัมสเตอร์ดัม, เนเธอร์แลนด์ – นักกิจกรรมกรีนพีซทั้งจากอาร์เจนติน่า ตุรกี สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร ล่องเรือไปยังแท่นขุดเจาะขนาดใหญ่ของเชลล์ที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติก ปีนขึ้นแท่นขุดเจาะและชูป้ายข้อความที่มีใจความว่า “Stop Drilling. Start Paying” หรือ “หยุดขุดเจาะและต้องจ่ายค่าความสูญเสียและความเสียหายจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ”

หลังจากเชลล์ประกาศแสวงหาน้ำมันเพื่อผลกำไรในมหาสมุทร นักกิจกรรมกรีนพีซสากล 4 คน ขึ้นเรือไวท์ มาร์ลิน (White Marlin) ในทะเลตอนเหนือของเกาะคันนารี่ และประท้วงโดยสันติเพื่อคัดค้านการทำลายสภาพภูมิอากาศทั่วโลกที่เกิดขึ้นโดยเชลล์และกลุ่มอุตสาหกรรมฟอสซิล โดยที่บริษัทเหล่านี้ไม่ต้องรับผิดชอบความสูญเสียและเสียหายจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศแม้แต่น้อย

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เวลา 8.00น. ตามเวลาสากล นักกิจกรรมทั้งหมดมาถึงแท่นขุดเจาะน้ำมันขนาด 51,000 ตัน ด้วยเรือยางจากเรืออาร์กติก ซันไรซ์ของกรีนพีซ และใช้เชือกปีนขึ้นไป

นักกิจกรรมทั้ง 4 คน ได้แก่ คาร์ลอส มาเซโล, บาริกกิ อมารา จากอาร์เจนตินา ยาคุป เชตินกายา จากตุรกี อีโมเกน มิเชล จากสหราชอาณาจักร และอัสนี่ แกรนเจอร์ จากสหรัฐอเมริกา ขึ้นไปยังแท่นขุดเจาะน้ำมัน ส่วนนักกิจกรรมอีกสองคนคือ เยบ ซาโน จากฟิลิปปินส์ และวายา เปซิค มาเวรู จากอินโดนีเซียพยายามขึ้นไปที่แท่นเช่นกัน

เราเลือกที่จะทำกิจกรรมบนแท่นขุดเจาะเพราะแท่นขุดเจาะน้ำมันเป็นสถานที่ที่ทำให้เชลล์สามารถเข้าไปขุดเจาะน้ำมันอีก 8 แห่งในบริเวณแหล่งน้ำมันเพนกวิน นอร์ธ ซี และแหล่งก๊าซธรรมชาติ โดยนักกิจกรรมยังเตรียมสเบียงเพื่อให้ตัวเองสามารถอยู่บนแท่นขุดเจาะนั้นได้อีกหลายวัน

นอกจากจะเป็นนักกิจกรรมในครั้งนี้แล้ว เยบ ซาโน ยังเป็นผู้อำนวยการบริหาร กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นนักเจรจาด้านสภาพภูมิอากาศโลกของฟิลิปปินส์อีกด้วย โดยเยบ ซาโน ยังร่วมเป็นหนึ่งในนักกิจกรรมให้กับกรีนพีซ สากล ในกิจกรรมการเผชิญหน้าอย่างสันติในครั้งนี้ และขณะนี้เขาก็อยู่บนเรืออาร์กติก ซันไรซ์

เยบกล่าวว่า “เชลล์จะต้องหยุดการขุดเจาะน้ำมันและต้องเริ่มจ่ายชดเชยค่าเสียหายจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศได้แล้ว เพราะปัจจุบันเชลล์กำลังแสวงหาแหล่งเชื้อเพลิงฟอสซิลซึ่งเป็นตัวการหลักทำให้เกิดทำลายชีวิต และการอพยพย้ายถิ่นทั่วโลก ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดสำหรับประชาชนผู้ซึ่งเป็นผู้ก่อมลพิษวิกฤตสภาพภูมิอากาศน้อยที่สุด”

“เชลล์และกลุ่มอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลกำลังเร่งวิกฤตสภาพภูมิอากาศให้เกิดขึ้นบนโลก ผืนป่า มหาสมุทร และครอบครัวของเรา

“ดังนั้นเราจะต้องลงมือปฏิบัติการในท้องทะเล ในการประชุมผู้ถือหุ้น ในการพิจารณาคดี ในช่องทางออนไลน์ และที่สำนักงานใหญ่ของบริษัท เราจะไม่หยุดจนกว่าเราจะได้รับความเป็นธรรมทางสภาพภูมิอากาศ เราจะให้ผู้ก่อมลพิษเป็นคนจ่าย

“อุตสาหกรรมเหล่านี้จะต้องแสดงความรับผิดต่อการแสวงหาผลกำไรมานานกว่าทศวรรษจากความเป็นธรรมทางสภาพภูมิอากาศ และจะต้องจ่ายค่าชดเชยความสูญเสียและเสียหายที่พวกเขาก่อขึ้น เราต้องการการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เป็นธรรม เป็นพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดเพื่อผลประโยชน์ต่อชุมชน การสร้างงานและเพื่อปกป้องสภาพภูมิอากาศ”

แท่นขุดเจาะ ไวท์ มาลิน เป็นแท่นที่สามารถทั้งขุดเจาะและขนถ่ายน้ำมัน [FPSO] ให้กับเชลล์ ซึ่งพยายามแสวงหาน้ำมันทั้งหมดออกจากแหล่งน้ำมันเพนกวิน นอร์ธ ซี แท่นขุดเจาะดังกล่าวเป็นแท่นที่ขุดเจาะให้กับเชลล์ในบริเวณทะเลเหนือมากว่า 30 ปี [1] โดยการขุดเจาะช่วงสูงที่สุดคาดว่าสามารถขุดเจาะน้ำมันได้กว่า 45,000 บาเรลต่อวัน และก่อนหน้านี้เชลล์ยังระบุว่าสามารถเปิดพื้นที่เพื่อสำรวจทรัพยากรน้ำมันเพิ่มเติมในอื่น ๆ อีกด้วย

การประท้วงที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นหลังจากไม่กี่สัปดาห์ที่ เวลล์ ซาวาน เข้ามาเป็นผู้บริหารคนใหม่ของเชลล์

ในสัปดาห์นี้เชลล์มีแนวโน้มจะต้องเจอแรงกดดันเพิ่มเติมเนื่องจากบริษัทจะประกาศผลกำไรทั้งปีในวันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ เป็นเรื่องที่น่าจับตามองที่บริษัททำกำไรจากราคาพลังงานที่สูงเกินจริง ซึ่งมีสาเหตุมาจากสงครามรัสเซียในยูเครน 

ภาพและคลิปวิดีโอกิจกรรมสามารถดาวน์โหลดได้ ที่นี่


หมายเหตุ :

[1] เว็บไซต์ Energy Voice: FPSO for delayed Penguins project ‘progressing well’ says Shell boss

[2] สามารถสัมภาษณ์นักกิจกรรมได้โดยสามารถติดต่อได้ที่

ติดต่อ

Emily Davies, Greenpeace Global Press Lead: +44 7870 260 213, [email protected] 

Greenpeace International Press Desk: +31 (0)20 718 2470 (available 24 hours), [email protected]

Follow @greenpeacepress on Twitter for our latest international press releases.

ติดตาม @greenpeacepress ในช่องทางทวิตเตอร์ เพื่ออัพเดทข่าวสารล่าสุดจากกรีนพีซ สากล หรือติดตาม @greenpeaceth ในช่องทางทวิตเตอร์ เพื่ออัพเดทข่าวสารจาก กรีนพีซ ประเทศไทย