8 กันยายน 2022 – ผลการจัดอันดับแบรนด์ผู้ผลิตแบรนด์รถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยกรีนพีซ เอเชียตะวันออก ระบุ ในปีนี้โตโยต้ายังคงรั้งท้ายเป็นปีที่สอง ส่วน นิสสัน และ ฮอนด้า ตกลงจากปีก่อน 3 อันดับ เนื่องจากกระบวนการลดคาร์บอนในห่วงโซ่การผลิตที่ช้า
เอด้า กง (Ada Kong) หัวหน้าโครงการยานพาหนะเพื่อสิ่งแวดล้อม กรีนพีซ เอเชียตะวันออก กล่าวว่า “ในปี 2021 ที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั่วโลกเพิ่มขึ้นจากเดิมสองเท่า อย่างไรก็ตามในแง่ของการผลิตยังไม่มีความสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ โตโยต้า นิสสัน และ ฮอนด้า ที่ยังคงตามหลังแบรนด์อื่นๆในการเปลี่ยนผ่านเพื่อเพิ่มการผลิตรถยนต์ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ ปี 2021 ที่ผ่านมา รถยนต์จำนวน 499 จากทุกๆ 500 คันของโตโยต้าที่ขายไปเป็นรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งนี่เป็นอัตราที่สูงจนน่าตกใจ แม้ว่าความนิยมใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น แต่ความเป็นจริงคือผู้ผลิตรถยนต์ยังไม่พยายามปรับตัวเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่การการผลิตรถยนต์คาร์บอนเป็นศูนย์มากพอ”
ตารางด้านล่างสรุปข้อมูล 10 อันดับแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกในด้านการลดและเลิกผลิตยานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ และการลดการใช้ทรัพยากร โดยข้อค้นพบทั้งหมดมาจากการวิเคราะห์ของกรีนพีซโดยใช้ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลยานยนต์ MarkLines
| #Rank(↑ # or ↓ #)* | Company | Overall score (out of 100) | 2021 ZEV sales % |
| 1 | General Motors | 38.5 | 8.18% |
| 2 (↑5) | Mercedes-Benz | 37.0 | 3.82% |
| 3 (↓1) | Volkswagen | 33.3 | 5.21% |
| 4 (↑4) | Ford | 23.5 | 1.40% |
| 5 (↓1) | Hyundai-Kia | 22.3 | 3.49% |
| 6 (↓3) | Renault | 20.3 | 6.69% |
| 7 (↑2) | Stellantis | 19.3 | 2.86% |
| 8 (↓3) | Nissan | 13.4 | 2.20% |
| 9 (↓3) | Honda | 12.8 | 0.35% |
| 10 | Toyota | 10.0 | 0.18% |
ข้อค้นพบสำคัญ
- ยอดขายรถพลังงานไฟฟ้าในปี 2021 เพิ่มขึ้นสองเท่าจากปีที่ผ่านมา แต่กระบวนการผลิตยังไม่มีเสถียรภาพพอเนื่องจากปัจจัยเกี่ยวกับผู้ผลิตและปัจจัยแต่ละภูมิภาค [1]
- แบรนด์ นิสสัน และ ฮอนด้า ตกอันดับจากปีก่อนลงมาถึง 3 อันดับเนื่องจากกระบวนการลดคาร์บอนในห่วงโซ่การผลิตที่ช้าและเป้าหมายแก้ปัญหาวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่ไม่เข้มข้นมากพอ
- โตโยต้ายังคงเป็นแบรนด์ที่ได้คะแนนจากการประเมินต่ำที่สุดและอยู่ในอันดับรั้งท้าย 2 ปี ติดต่อกัน โดยปี 2021 ที่ผ่านมา โตโยต้ามียอดขายยานพาหนะที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 0.2% เท่านั้นเมื่อเทียบกับยอดขายทั้งหมด เทียบกับแบรนด์ เจนเนอร์รัล มอร์เตอร์ (General Motors) ที่มียอดขาย 8% และแบรนด์เรโนลต์ (Renault) ที่มียอดขายเกือบ 7%
- แม้ว่าแบรนด์เจนเนอรัล มอเตอร์ (General Motors) และ เมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz) จะเป็นแบรนด์ผู้ผลิตที่มีคะแนนสูงสุดในการจัดอันดับปีนี้ แต่ทั้งคู่ยังคงขายยานยนต์ที่ใช้พลังงานฟอสซิลในอัตราที่เกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ในความตกลงปารีส (Paris Agreement)
- แบรนด์ฮุนได – เกีย (Hyundai-Kia) อยู่ในอันดับที่ 5 ตกลงมาจากอันดับที่ 4 ในปีที่แล้ว เนื่องจากยังไม่มีแผนการที่ชัดเจนในการลดและเลิกผลิตยานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป และแม้ว่าแผนการลดการปล่อยคาร์บอนจากกระบวนการผลิตเหล็กของแบรนด์จะได้รับคะแนนการประเมินสูง แต่คะแนนบางส่วนถูกตัดออกเพราะแบรนด์มีกลยุทธ์ทางธุรกิจมุ่งไปทางรถ SUV อย่างหนัก ซึ่งรถประเภทดังกล่าวต้องใช้เหล็กประกอบในปริมาณที่มากขึ้น
- กลุ่มธุรกิจยานยนต์ยังต้องตอบสนองต่อความต้องการบริโภคในจีนเพื่อเพิ่มยอดขายยานพาหนะที่ไม่ปล่อยคาร์บอน ในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 ยอดขายรถยนต์คาร์บอนเป็นศูนย์ของแบรนด์ เจเนอรัล มอเตอร์ในจีนสูงถึง 96% ในขณะที่ยอดขายในสหรัฐอเมริกามีเพียง 3% เท่านั้น
จากผลการวิเคราะห์ทั้งหมดนี้ กรีนพีซจึงเรียกร้องให้แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์มุ่งปรับกลยุทธ์ที่เน้นไปที่ยานพาหนะคาร์บอนเป็นศูนย์มากขึ้นกับตลาดทั่วโลก แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ควรหยุดการขายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปในยุโรปภายในปี 2028 และในสหรัฐอเมริกา จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นภายในปี 2030 โดยการปรับตัวเพื่อเปลี่ยนผ่านนี้จะต้องรวมไปถึงการลงทุนในการรีไซเคิลแบตเตอร์รี่ การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตเหล็ก และสร้างความเป็นธรรมกับพนักงานในช่วงที่เกิดการเปลี่ยนผ่าน
เอด้า กง กล่าวว่า “ตอนนี้เราอาศัยอยู่ท่ามกลางวิกฤตสภาพภูมิอากาศ และเราจะรับรู้ได้ถึงผลกระทบจากมันมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งแบรนด์เหล่านี้ก็ได้รับผลกระทบไปด้วยเช่น เมื่อเดือนที่ผ่านมา โรงงานของโตโยต้าต้องถูกระงับกระบวนการผลิต เพราะทางตะวันตกของจีนได้รับผลกระทบจากคลื่นความร้อนรุนแรงจนกลายเป็นสถิติใหม่ ซึ่งนี่ทำให้เห็นว่าแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกเหล่านี้ต้องตระหนักและเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการต่อกรกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ และต้องให้คำมั่นสัญญาว่าจะเปลี่ยนผ่านโมเดลธุรกิจของตัวเองไปสู่การเพิ่มการผลิตยานพาหนะที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ภายในทศวรรษนี้”
ดาวน์โหลดข้อสรุปสำหรับสื่อมวลชน
Note:
[1] คำศัพท์ “รถพลังงานไฟฟ้า” อ้างถึงรถประเภท BEVs และ FCEVs
Media Contacts:
Erin Newport, International Communications Officer, Greenpeace East Asia (Taipei), +886 958 026 791, [email protected]
Mitsuhisa Kawase, Senior Communications Officer, Greenpeace Japan, [email protected]