4 เมษายน 2565 – คณะทำงานระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(IPCC) ออกรายงานการประเมินครั้งที่ 6 ฉบับที่ 3 ต่อรัฐบาลทั่วโลกในวันนี้

รายงานฉบับล่าสุดซึ่งเน้นถึงแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนี้ประกาศว่า ยังมีทางออกเพื่อให้บรรลุเป้าหมายความตกลงปารีส อย่างไรก็ตาม มันจะไม่เกิดขึ้นจริงจากนโยบายที่เป็นอยู่ของรัฐบาลต่างๆ ซึ่งนำไปสู่ความล้มเหลว ขณะนี้ เราอยู่ในห้วงเวลาที่สำคัญอันยิ่งยวดเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลกลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2573 และมุ่งสู่การปล่อยเหลือศูนย์

Kaisa Kosonen ที่ปรึกษาอาวุโสด้านนโยบายกรีนพีซ นอร์ดิก(Greenpeace Nordic) กล่าว :

“เกมของอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลที่สุมไฟสงครามและสร้างความปั่นป่วนต่อสภาพภูมิอากาศได้จบลงแล้ว ไม่มีที่ว่างให้กับการพัฒนาโครงการเชื้อเพลิงฟอสซิลแห่งใหม่ และโรงไฟฟ้าถ่านหินและโรงไฟฟ้าก๊าซฟอสซิลต้องถูกปลดระวางเร็วขึ้น ในขณะที่ผู้นำโลกอ้างว่าพวกเขากำลังทำอย่างดีที่สุดในเรื่องนโยบายสภาพภูมิอากาศ ชุมชนนักวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วพวกเขาไม่ได้ทำเช่นนั้น เรายังมีศักยภาพมากมายที่จะปกป้องสภาพภูมิอากาศและมีผลประโยชน์ต่อสังคมโลกอย่างมหาศาล แต่การลงทุนกลับมุ่งไปที่การสร้างปัญหาแทนที่จะสนับสนุนทางออกจากวิกฤต การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นโดยการตั้งเป้าหมาย นโยบายและการสนับสนุนที่น่าเชื่อถือให้สอดคล้องกับความตกลงปารีสเท่านั้น”

“ตัวเปลี่ยนเกมอย่างแท้จริง คือการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์และลมซึ่งสามารถแข่งขันทางการตลาดได้ หากโอกาสเปิด ระบบพลังงานหมุนเวียนสามารถปฏิรูปการคมนาคมขนส่ง อาคารและที่พักอาศัย และภาคอุตสาหกรรมด้วยความเร็วอย่างที่คิดไม่ถึง ซึ่งนั่นหมายถึงว่า ถ้ารัฐบาลผลักระบบเชื้อเพลิงฟอสซิลไปให้พ้นทาง ทั้งภัยคุกคามและโอกาสยิ่งมีมากขึ้นกว่าที่เคย รวมถึงพลังของผู้คนที่รวมตัวกันเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง”

Louise Fournier ที่ปรึกษากฎหมายด้านความเป็นธรรมและภาระรับผิดด้านสภาพภูมิอากาศ กรีนพีซ สากล กล่าวว่า :

“เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่ IPCC ยอมรับถึงพลังของผู้คนที่จะขึ้นศาลเพื่อยืนหยัดถึงความเชื่อมโยง ระหว่างสิทธิมนุษยชนกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ รัฐบาลทั้งหลาย เหล่าบรรษัท และสถาบันทางการเงิน ต้องเลือกว่าจะทำตามคำแนะนำทางวิทยาศาสตร์และจัดการกับความไม่เป็นธรรมในขั้นรากฐาน หรือ จะถูกบังคับให้ทำเช่นนั้น”

Estefanía González ผู้ประสานงานรณรงค์ กรีนพีซ ชิลี กล่าวว่า :

“เราอยู่ในวิกฤตของความเพิกเฉย เราต้องการปฏิบัติการที่สอดประสานระหว่างรัฐบาลประเทศต่างๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและรับรองแผนการปรับตัวจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศเดี๋ยวนี้ ในลาตินอเมริกา ความเชื่อมโยงระหว่างความเป็นธรรมทางสังคมและสิ่งแวดล้อมได้ขยายตัวเพิ่มขึ้น เราได้ท้าทายความไม่เป็นธรรม ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ล่าสุดนำเสนอทางออกที่เป็นรูปธรรม แต่จะไม่เกิดประโยชน์หากเราไม่ดำเนินการในตอนนี้”

Li Shuo ที่ปรึกษานโยบายระดับโลก กรีนพีซ เอเชียตะวันออก กล่าวว่า:

“วิทยาศาสตร์ว่าด้วยแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนั้นมีความชัดเจน เป็นประเด็นที่ผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ทั้งหมดที่ต้องเพิ่มความมุ่งมั่นต่อแผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งในเป้าหมายและการดำเนินการ หากไม่ลงมืออย่างเร่งด่วน เราจะไม่พร้อมต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ทางออกทั้งหมดถูกบันทึกในรายงาน IPCC คณะทำงานที่ 3 นี้ ถึงเวลาที่ต้องทำให้เป็นจริง”

Reyes Tirado นักวิทยาศาสตร์จาก Greenpeace Research Laboratories มหาวิทยาลัย Exeter กล่าวว่า:

“การปกป้องป่าไม้และระบบนิเวศน์ การหยุดทำลายผืนป่า และการเปลี่ยนไปสู่ระบบอาหารที่มีพืชเป็นส่วนประกอบหลักในสังคมที่มีรายได้สูงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้สภาพภูมิอากาศมีความสมดุล ทางออกเพื่อแก้ไขระบบอาหารที่ล่มสลายและการปกป้องธรรมชาตินั้นทำได้จริง เช่น การเพิ่มการลงทุนเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อม การรับรองสิทธิของชนเผ่าพื้นเมืองและชุมชนท้องถิ่น และการปกป้องอธิปไตยทางอาหารและวิถีชีวิตที่ยั่งยืน”

แต่ต้องทำให้เราปลอดภัยมากขึ้นในขณะที่สร้างความสามารถในการฟื้นฟูจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ รายงานรายงาน IPCC คณะทำงานที่ 3 ฉบับล่าสุดเน้นไปที่รัฐบาลท้องถิ่น : มุ่งมั่นที่จะลงทุนและเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียน และลดการปล่อยปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการบริโภค เมืองต่างๆ ไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่สำคัญเพื่อต่อกรกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ แต่ยังเป็นหลักไมล์ของการพัฒนาที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ การเดินทางสัญจรไปมาสำหรับทุกคน และการขยายพื้นที่สีเขียวมากขึ้น ไม่สามารถผลัดวันประกันพรุ่งได้อีกต่อไป”

จากข้อมูลของ IPCC มีทางออกเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกอย่างน้อยครึ่งหนึ่งภายในปี 2573 ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหลายความตกลงปารีส โดยที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของทางออกมีค่าใช้ที่ต่ำ นอกเหนือจาก บทบาทที่สำคัญของพลังงานแสงอาทิตย์ ลม และประสิทธิภาพทางพลังงาน รายงานเน้นถึงความสำคัญของการฟื้นฟูและปกป้องป่าไม้และระบบนิเวศทางธรรมชาติต่างๆ การฟื้นฟูผืนดินเพื่อเป็นแหล่งดูดซับคาร์บอนและการปรับเปลี่ยนการบริโภคอาหาร

ทรัพยากรเงินต้องใช้เพื่อหาทางออก แต่เงินทุนของภาครัฐและเอกชนยังคงใช้อุดหนุนอุตสาหกรรม เชื้อเพลิงฟอสซิล มากกว่าทางออกจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้บรรลุการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอนาคตอันใกล้ กระแสการเงินในการดำเนินการกู้วิกฤตสภาพภูมิอากาศจะต้องเพิ่มมากขึ้นในขณะที่มีการปลดแอก จากใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ไม่มีที่ว่างสำหรับโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาเชื้อเพลิงฟอสซิลแห่งใหม่อีกแล้ว

รายงาน IPCC คณะทำงานที่ 3 นี้ยืนยันว่า แผนและนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศของประเทศต่างๆ ไม่สอดคล้องกับเป้าหมายการลดอุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลกภายความตกลงปารีส แต่กลับขยายความไม่เท่าเทียม และส่งผลกระทบต่อชุมชนที่มีเปราะบางอยู่แล้วให้เสี่ยงมากขึ้นจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ รายงาน IPCC นี้ สรุปถึงกรอบการทำงานของรัฐบาลต่างๆ ทั่วโลกว่าจะสามารถทำตามคำมั่นสัญญา ที่มีขึ้นเมื่อปี 2564 การประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติที่กลาสโกว์ ซึ่งตกลงจะทบทวนเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศภายในสิ้นปี 2565 การประชุมสุดยอดครั้งต่อไปคือ COP27 ในอียิปต์ในปลายปีนี้ ซึ่งประเทศต่างๆ จะต้องตอบรับข้อค้นพบของ IPCC เกี่ยวกับแผนปฏิบัติการที่ไม่เข้มแข็งและขาดความต่อเนื่อง

รายงาน IPCC คณะทำงานที่ 3  เป็นรายงานฉบับที่ 3 ของการประเมินครั้งที่ 6 ต่อจากรายงานของคณะทำงานที่ 1 ว่าด้วยวิทยาศาสตร์กายภาพเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

และคณะทำงานที่ 2 เกี่ยวกับผลกระทบ การปรับตัว และความเปราะบาง เรื่องราวทั้งหมดของรายงานการประเมินครั้งที่ 6 ของ IPCC จะถูกนำมารวมกันเป็นรายงานการสังเคราะห์ในเดือนตุลาคม 2565

หมายเหตุ :

บบสรุปหลักจากรายงาน Mitigation of Climate Change (AR6 WGIII) จัดทำโดยกรีนพีซ ดาวน์โหลดที่นี่

ภาพถ่ายและวิดีโอว่าด้วยวิกฤตสภาพภูมิอากาศ สามารถหาได้ที่ Greenpeace Media Library.

ติดต่อ :

โต๊ะข่าว กรีนพีซ สากล [email protected] โทร +31 20 718 2470 (24 ชั่วโมง)