กลาสโกว์ 10 พฤศจิกายน 2564 – เจนนิเฟอร์ มอร์แกน ผู้อำนวยการบริหาร กรีนพีซ สากล ให้ความเห็นต่อข่าวเกี่ยวกับความตกลงด้านสภาพภูมิอากาศแบบทวิภาคีระหว่างจีนกับสหรัฐ ว่า

“เป็นข่าวที่น่ายินดีหากประเทศผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ที่สุดของโลกสองประเทศร่วมมือกันในด้านสภาพภูมิอากาศ และการจัดความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศขึ้นใหม่ในประเด็นสำคัญนี้ก็เลยกำหนดเวลามาแล้ว โลกจะกอบกู้วิกฤตสภาพภูมิอากาศก็ต่อเมื่อสหรัฐอเมริกาและจีนเดินหน้า สู่เป้าหมายเดียวกันเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้สอดคล้องกับเป้าหมายจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับยุคก่อนอุตสาหกรรม ในฐานะเป็นเรื่องเร่งด่วน”

“แถลงการณ์ของประเทศทั้งสองตระหนักถึงเป้าหมาย 1.5 C ว่า เป็นหัวใจสำคัญของแผนปฏิบัติการด้านสภาพภูมิอากาศที่น่าเชื่อถือและกำหนดให้ทศวรรษ 2020(พ.ศ.2563-2573) คือกรอบเวลาที่เราต้องเห็นการลงมือทำจริงๆ ซึ่งมีความสำคัญโดยเฉพาะจากสองประเทศนี้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว แถลงการณ์ของพวกเขาไม่ได้ผนวกข้อเรียกร้องจากกลุ่มประเทศที่เสี่ยงต่อวิกฤตสภาพภูมิอากาศในประเด็นที่ให้ ประเทศต่างๆ นำเสนอแผนปฏิบัติการที่มุ่งมั่นมากยิ่งขึ้นในแต่ละปีจนกว่าช่องว่างระหว่างเป้าหมาย 1.5 C และการลงมือทำจริงๆ จะหมดลง

“ดังนั้น จึงเป็นเรื่องดีที่จะได้เห็นสองประเทศนี้ร่วมงานกัน แต่ถ้าการจัดความสัมพันธ์ใหม่นี้จะเปลี่ยนเป็นความสำเร็จที่แท้จริงซึ่งสร้างความมั่นใจให้กับโลก สหรัฐอเมริกาและจีนจำเป็นต้องยกระดับความมุ่งมั่นและพันธะกรณีในการดำเนินการ และต้องเริ่มที่กลาสโกว์ซึ่งทุกประเทศควรใช้การเจรจาในช่วงสองวันสุดท้ายเพื่อเห็นชอบในความตกลงที่โลกต้องการ”

หมายเหตุ :

หากต้องการสัมภาษณ์กับเจนนิเฟอร์ มอร์แกน ผู้อำนวยการบริหาร กรีนพีซ สากล โปรดติดต่อ: แดนนีเอล ทาฟเฟ ที่ปรึกษาด้านสื่อ Greenpeace International ([email protected])

โต๊ะข่าวต่างประเทศของกรีนพีซ: [email protected], +31 (0) 20 718 2470 (ตลอด 24 ชั่วโมง)