กรุงเทพฯ, 18 กุมภาพันธ์ 2564 – ผลการศึกษาของกรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ IQAir จากการวิเคราะห์ข้อมูลจากป้ายแสดงผลตัวเลขตามเวลาจริง (live Cost Estimator) ออนไลน์ [1][2] พบว่าปี 2563 ฝุ่นพิษ PM 2.5 เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรราว 160,000 รายใน 5 เมืองใหญ่ที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ในขณะที่หลายเมืองมีคุณภาพอากาศดีขึ้นบ้าง อันเป็นผลมาจากมาตรการล็อคดาวน์ช่วงการระบาดของโควิด-19 ผลกระทบที่รุนแรงจากมลพิษทางอากาศย้ำถึงความจำเป็นในการขยายระบบพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดอย่างรวดเร็ว สร้างระบบขนส่งมวลชนไฟฟ้าที่ประชาชนเข้าถึงได้ และยุติการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล
อวินัช จันทร์ชาญ ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านสภาพภูมิอากาศ กรีนพีซ อินเดีย กล่าวว่า “เมื่อรัฐบาลเลือกใช้ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซ มากกว่าพลังงานหมุนเวียน นั่นคือต้นทุนด้านสุขภาพที่ประชาชนต้องเป็นผู้จ่าย มลพิษทางอากาศจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลเพิ่มความเสี่ยงจากการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดทางสมอง ความเจ็บป่วยจากโรคหอบหืด และเพิ่มความรุนแรงของโควิด-19 ในเมื่อทางแก้ปัญหามลพิษทางอากาศมีอยู่พร้อมแล้วและมีราคาไม่แพง เราจึงไม่อาจทนหายใจเอาอากาศสกปรกเข้าปอดอีกต่อไป”
ปี 2563 กรุงเดลี ประเทศอินเดียมีผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากฝุ่นพิษ PM 2.5 ประมาณ 54,000 ราย หรือคิดเป็นอัตราการเสียชีวิต 1 คนต่อประชากร 500 คน กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย มีผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรประมาณ 13,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรที่เกี่ยวข้องกับฝุ่นพิษ PM 2.5 อย่างต่อเนื่องคิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 101,570,000,000 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 8.2 เทียบกับ GDP ทั้งหมดของกรุงจาการ์ตา
ในประเทศไทย มลพิษทางอากาศเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของประชากรกว่า 14,000 รายใน 6 จังหวัด โดยคิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจประมาณ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 149,367,000,000 บาทกรุงเทพมหานครมีความเสียหายมูลค่าทางเศรษฐกิจจากมลพิษ PM2.5 กว่า 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 104,557,000,000 บาท โดยคิดเป็นร้อยละ 5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัด(city’sGDP) โดยฝุ่นพิษ PM 2.5 เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของประชากรในกรุงเทพฯ เกือบ 10,000 ราย ซึ่งถือเป็นจังหวัดที่มีการเสียชีวิตจากฝุ่นพิษ PM 2.5 สูงสุดในประเทศไทย รองลงมาคือ เชียงใหม่ ชลบุรี สมุทรสาคร ขอนแก่น และระยอง ปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดความเสียหายที่เกิดขึ้นคือ ระยะเวลา ความหนาแน่นของประชากร และกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในจังหวัด ในขณะที่ประเทศไทยใช้มาตรการล็อคดาวน์เพื่อรับมือกับสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 มาหลายเดือนแล้ว แต่ปัญหามลพิษทางอากาศกลับไม่ได้ลดน้อยลงเลย และกำลังคุกคามสุขภาพของประชาชน และระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เว้นแต่ว่าวิกฤตมลพิษทางอากาศจะได้รับการแก้ไข
ในปี 2563 ความเสียทางเศรษฐกิจโดยประมาณจากฝุ่นพิษ PM 2.5 ใน 14 เมืองที่ปรากฎอยู่ในป้ายแสดงผลตัวเลขตามเวลาจริง คิดเป็นมูลค่ากว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 149,367,000,000 บาทและเมืองที่มีค่าความเสียหายจากมลพิษ PM 2.5 สูงที่สุดที่บันทึกไว้คือ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มีผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรประมาณ 40,000 ราย และคิดเป็นความสียหายทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากฝุ่นพิษ PM 2.5 ประมาณ 43,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1,284,560,000,000 บาท ลอสแองเจลิสทำสถิติสูงสุดด้าน
ค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจากฝุ่นพิษ PM 2.5 ต่อคน โดยคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,700 เหรียญสหรัฐต่อคน หรือ 80,658.20 บาทต่อคน
ประมาณการณ์ผลกระทบจากมลพิษทางอากาศใน 5 เมืองใหญ่ของโลก ปี 2563
ชื่อเมือง | จำนวนประชากร | ประมาณการณ์อัตราการเสียชีวิต | ประมาณการณ์มูลค่าการสูญเสีย (บาท) |
เดลี | 30 ล้าน | 54,000 | 241,975,000,000 |
เม็กซิโกซิตี้ | 22 ล้าน | 15,000 | 238,987,000,000 |
เซาเปาโล | 22 ล้าน | 15,000 | 209,114,000,000 |
เซี่ยงไฮ้ | 26 ล้าน | 39,000 | 567,595,000,000 |
โตเกียว | 37 ล้าน | 40,000 | 1,284,560,000,000 |
กรีนพีซเรียกร้องให้รัฐบาลในทุกระดับสนับสนุนให้เกิดลงทุนระบบพลังงานหมุนเวียนที่สะอาด เช่น พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และระบบขนส่งสาธารณะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ เพื่อเป็นการป้องกันสุขภาพของประชาชนจากมลพิษทางอากาศที่ร้ายแรง
แฟรงค์ แฮมเมส ผู้บริหาร IQAir กล่าวว่า “การหายใจของคนเราไม่ควรเป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ความจริงที่ว่า มลพิษทางอากาศส่งผลกระทบให้เกิดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรราว 160,000 รายใน 5 เมืองใหญ่ น่าจะทำให้เราฉุกคิด โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมาที่หลายเมืองมีคุณภาพอากาศดีขึ้นเนื่องจากมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจน้อยลง ภาครัฐ บริษัทต่าง ๆ และภาคประชาชนต้องร่วมกันลดแหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศและทำให้เมืองของเราน่าอยู่ขึ้น”
วริษา สี่หิรัญวงศ์ ผู้ประสานงานรณรงค์เพื่อการเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน กรีนพีซ ประเทศไทย กล่าวว่า “การสร้างโครงสร้างพื้นฐานของระบบพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดในหลาย ๆ ส่วนของโลกนั้นมีต้นทุนถูกกว่าการลงทุนในเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ก่อมลพิษ โดยที่ยังไม่รวมต้นทุนผลกระทบของมลพิษทางอากาศและวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ในขณะที่ รัฐบาลต้องการให้เกิดการฟื้นตัวจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ จากสถานการณ์การระบาดของโควิด -19 ภาครัฐจำเป็นต้องสนับสนุนการจ้างงาน และสร้างระบบขนส่งสาธารณะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาดที่เข้าถึงได้ และเพิ่มการลงทุนระบบพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ เราต้องการสภาวะปกติที่ดีขึ้นไม่เพียงเพื่ออากาศที่ดีของเรา แต่รวมถึงเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว – อุทกภัย ความแห่งแล้งยาวนาน คลื่นความร้อน พายุที่รุนแรง – ที่เป็นผลมาจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ”
หมายเหตุ
[1] ฝุ่นพิษ PM 2.5 คือ ฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กมีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมครอน การสัมผัสกับPM 2.5 ถือเป็นปัจจัยเสียงทางสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของประชาชนทั่วโลก และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของประชากร 4.2 ล้านรายในปี 2558
[2] ป้ายแสดงผลตัวเลขตามเวลาจริง (live Cost Estimator) ออนไลน์ พัฒนาโดยศูนย์วิจัยพลังงานและอากาศบริสุทธิ์ (Centre for Research on Energy and Clean Air) โดยใช้ข้อมูลคุณภาพอากาศตามเวลาจริงจาก IQAir ร่วมกับแบบจำลองความเสี่ยงทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนข้อมูลจำนวนประชากรและสุขภาพ เพื่อติดตามวัดผลกระทบด้านสุขภาพและเศรษฐกิจจากมลพิษทางอากาศตามเวลาจริง ป้ายแสดงผลตัวเลขตามเวลาจริงใช้อัลกอริทึมและข้อมูลคุณภาพอากาศระดับพื้นดินแบบรายชั่วโมงในเมืองต่าง ๆ ทั่วโลกมาคำนวณความเสียหายโดยพิจารณาผลกระทบทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากมลพิษ PM 2.5 ตลอดทั้งปี โดยคำนวนความเสียหายสะสมในช่วง 365 วันตามระดับมลพิษที่บันทึกไว้ในระหว่างปีจนถึงปัจจุบัน มลพิษทางอากาศมากมายส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราซึ่งรวมถึงมลพิษ PM2.5 ดังนั้นตัวเลขที่คำนวณได้จึงน่าจะเป็นการประเมินค่ามลพิษทางอากาศทั้งหมดที่ต่ำเกินไป
ป้ายแสดงผลตัวเลขสร้างขึ้นด้วยวิธีการที่อธิบายไว้ในรายงาน อากาศพิษ: ราคาเชื้อเพลิวฟอสซิล (Toxic Air: The Price of Fossil Fuels) ที่จัดทำโดยกรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และศูนย์วิจัยพลังงานและอากาศบริสุทธิ์ (CREA) ซึ่งรวบรวมผลทางวิทยาศาสตร์ล่าสุดเกี่ยวกับความสัมพันธ์การตอบสนองต่อการสัมผัสระหว่าง มลพิษทางอากาศและผลลัพธ์ด้านสุขภาพตลอดจนต้นทุนทางเศรษฐกิจของสภาวะสุขภาพที่เชื่อมโยงกับมลพิษทางอากาศในบทความวิจัยทางวิทยาศาสตร์
ดูระเบียบวิธีการแบบฉบับเต็มได้ที่นี่
Discussion
Pollution in Thailand is way out of control. Thailand is now one of the most polluted places on the planet. Its hard to reconcile Thailands dreams of being a tourist magnate with the horrible pollution now affecting the country. The main cause is Crop burning. Crops are burnt to save small money for large corporations. The government does nothing because fat cats in government receive kickbacks. Old cars and factories chug out smoke as laws are not enforced by the corrupt establishment. A hopeless situation.