อูซัวยา อาร์เจนตินา – ทีมนักวิทยาศาสตร์ได้เริ่มต้นการสำรวจจำนวนประชากรของเพนกวินชินสแตรปในแอนตาร์กติกอีกครั้ง หลังจากที่เคยสำรวจครั้งสุดท้ายเมื่อ 50 ปีก่อน ซึ่งจากข้อมูลพบว่าจำนวนเพนกวินกำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง จนเกือบจะมากถึงร้อยละ 77 

ทีมนักวิจัยอิสระที่ร่วมเดินทางกับกรีนพีซระบุว่า เพนกวินบนเกาะเอลเฟ่น ซึ่งตั้งอยู่บนคาบสมุทรแอนตาร์กติก มีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยจำนวนของเพนกวินชินสแตรปบนเกาะเอลเฟ่นลดลงเกือบร้อยละ 60 เมื่อเทียบกับปีพ.ศ.2514  คือมีประชากรหลงเหลืออยู่เพียง 52,786 คู่ เมื่อเทียบกับการสำรวจครั้งก่อนที่พบมากถึง 122,550 คู่

เพื่อกระตุ้นให้เกิดความสนใจในวงกว้าง นักรณรงค์ของกรีนพีซได้ติดตั้งรูปปั้นน้ำแข็งแกะสลัก ภายใต้ชื่อกิจกรรมว่า “นกเพนกวินที่หายไป” ในเมืองต่างๆ ทั่วโลก ตั้งแต่กรุงโซลจนถึงกรุงลอนดอน เมืองบัวโนสไอเรสจนถึงเคปทาวน์ โดยแกะสลักน้ำแข็งเป็นรูปนกเพนกวินแล้ว ปล่อยให้ค่อยๆ ละลายหายไปท่ามกลางแสงแดด เพื่อสื่อถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกระทบต่อเพนกวิน รวมถึงเรียกร้องให้มีการดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อปกป้องมหาสมุทรด้วยการสนับสนุนสนธิสัญญาทะเลหลวง

ดอกเตอร์ฮีเธอร์ เจ. ลินซ์ รองศาสตราจารย์ด้านนิเวศวิทยาและวิวัฒนาการ มหาวิทยาลัยสโตนี่บรู๊ค หนึ่งในทีมนักสำรวจ กล่าวว่า “ปริมาณเพนกวินที่ลดลง มีนัยยะสำคัญชี้ให้เห็นว่ามหาสมุทรแอนตาร์กติก เปลี่ยนไปจากเมื่อ 50 ปีก่อน และผลกระทบนี้ยังแพร่กระจายเป็นวงกว้างต่อห่วงโซ่อาหารที่สำคัญต่อสิ่งมีชีวิตเช่น เพนกวินสายพันธุ์ชินสแตรป ในขณะที่มีปัจจัยหลายอย่างที่เรามีอาจมีบทบาทหลักที่จะเป็นผู้รับผิดชอบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างที่เราเห็นในตอนนี้”

ไฟรดา เบงส์ตั้น ผู้ประสานงานรณรงค์ปกป้องมหาสมุทรของกรีนพีซกล่าวว่า “โลกที่มีเพนกวินน้อยลง จะเป็นโลกที่มีความสุขน้อยลง ในขณะที่สัตว์ป่าต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด เราต้องช่วยกันผลักดันเขตอนุรักษ์ที่ปลอดภัยจากกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ ไม่เพียงแค่ในเขตแอนตาร์ติกแต่เป็นมหาสมุทรทั่วโลก ให้เหล่าสัตว์ทะเลเช่นเพนกวิน ได้มีเวลาฟื้นฟูจำนวนประชากรและได้ปรับตัวให้เข้ากับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราจำเป็นจะต้องให้รัฐบาลทุกประเทศสมาชิกร่วมสนับสนุนและลงนามในสนธิสัญญาทะเลหลวงภายในปีนี้”

ทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสโตนี่บรู๊คและมหาวิทยาลัยนอร์ทอีสเทิร์น ยังได้สำรวจฝูงเพนกวินชินสแตรปขนาดใหญ่ ที่ไม่ได้พบเห็นบ่อยนักบนเกาะโลว์ โดยใช้การสำรวจด้วยตัวเองและโดรน นับเป็นครั้งแรกที่เพนกวินชินสแตรปมากกว่า 100,000 คู่ ได้รับการสำรวจและการติดตามจากภาคพื้นดินอย่างเหมาะสม