เรือเอสเพอรันซา (The Esperanza)

เรือเอสเพอรันซาเริ่มแล่นในพ.ศ. 2545 เป็นเรือลำล่าสุดและใหญ่ที่สุดในกองเรือของกรีนพีซ โดยเข้ามาแทนเรือกรีนพีซที่เลิกใช้ไปแล้ว เอสเพอรันซา (ภาษาสเปนแปลว่า “ความหวัง”) เป็นเรือลำแรกที่ผู้มาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราเป็นผู้ตั้งชื่อให้

กว่า 20 ปีที่เรือเอสเพอรันซากลายเป็นเรือปฏิบัติการของกรีนพีซที่ว่องไวและมีขนาดใหญ่ที่สุดในจำนวนเรือทั้งหมด

เรือเอสเพอรันซาถูกสร้างขึ้นที่ Gdansk โปแลนด์ในปี 2527 โดยเป็นเรือรัสเซียที่เคยทำหน้าที่ดับเพลิงโดยกรีนพีซได้รับเรือมาในปี 2543 และใช้ในงานรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมในประเด็นการยุติการล่าวาฬ การขนส่งกากกัมมันตรังสีจากนิวเคลียร์ การประมงที่ผิดกฎหมาย การตัดไม้ที่ผิดกฎหมาย การวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และงานรณรงค์ด้านสภาพภูมิอากาศและพลังงาน ด้วยคุณสมบัติด้านความเร็วและสามารถแล่นเรือในจุดที่มีระดับน้ำแข็งได้ ทำให้เรือสามารถใช้ในการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ขั้วโลกด้วยความเร็วที่เรือลำอื่นไม่สามารถทำได้ ในช่วงปี 2564 – 2565 ก่อนที่เรือเอสเพอรันซ่าจะปลดระวาง เรือยังได้ทำหน้าที่เป็นเรือปล่อยยานบินจากพลังงานแสงอาทิตย์ เฮลิคอปเตอร์ และยานสำรวจใต้ทะเลเพื่อเป็น ‘แสงแห่งความหวัง’ ให้กับโลกของเราอีกด้วย

ของขวัญที่เอสเพอรันซามอบให้

แม้ว่าการไล่เรียงเหตุการณ์อันน่าจดจำของเรือเอสเพอรันซาให้ครบถ้วนสมบูรณ์อาจเป็นเรื่องยาก แต่เราได้รวบรวมไฮไลท์ที่เอสเพอรันซามอบเป็นของขวัญให้กับพวกเรา 

ย้อนดูเรื่องราวของเรือเอสเพอรันซา 2543 – 2565

ประวัติ

เรือลำนี้เป็นเรือลำที่ 4 ในกองเรือดับเพลิงที่รัฐบาลรัสเซียสั่งซื้อในระหว่าง พ.ศ. 2526 ถึง 2530 จากพื้นที่ก่อสร้างในเมือง Gdansk โปแลนด์ ความสามารถในการแล่นผ่านทะเลน้ำแข็งที่หนาและความเร็วสูงเป็นหนึ่งในข้อกำหนดของรัสเซีย

เอสเพอรันซาเป็นเรือ 1 ใน 14 ลำที่มีคุณสมบัติคล้ายกันที่ได้รับใบอนุญาตเดินเรือจากรัฐบาลรัฐเซียและใช้งานโดยกองทัพเรือรัสเซียเป็นเรือดับเพลิงในเมือง Murmansk

เรือลำนี้จอดนิ่งเป็นเวลาหลายปีในปลายทศวรรษ 80 เนื่องจากขาดเงินทุน จากนั้นจึงถูกขาย 2-3 ครั้ง และในที่สุดทำหน้าที่เป็นเรือขนส่งสินค้าในนอร์เวย์ ด้วยความยาว 72 เมตร และความเร็วสูงสุด 16 น๊อต ทำให้เรือลำนี้เหมาะสมอย่างที่สุดสำหรับงานที่ต้องใช้ความเร็วและใช้เวลานาน ความสามารถในการแล่นผ่านน้ำแข็งแสดงว่าเรือลำนี้สามารถทำงานแถบขั้วโลกได้ด้วย

ใช้เวลาหลายเดือนในการแปลงเรือลำนี้ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยได้รับการกำจัดเยื่อหินทนไฟออกทั้งหมด เปลี่ยนระบบน้ำมันพิเศษให้เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการรั่วไหลของน้ำมัน ปรับปรุงแรงขับเคลื่อนไฟฟ้าดีเซลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สร้างระบบทำความร้อนจากของเสีย ทำ้น้ำสกปรกใต้ท้องเรือให้บริสุทธิ์ ทำให้เรือลำนี้มีประสิทธิภาพกว่าที่กฎหมายในปัจจุบันกำหนด สีทาตัวเรือปราศจากสารไตรบิวทิลทิน ใช้สารทำความเย็นและเครื่องปรับอากาศที่ทำจากแอมโมเนีย แทนการใช้สารฟรีออน ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนและทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน

เรือลำนี้เป็นเรือสัญชาติเนเธอแลนด์ที่จดทะเบียนลำแรกที่ได้รับการปรับปรุงให้เหมาะสมอย่างมากเช่นนี้  และยังมีระบบขับเคลื่อนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์

นอกจากนี้ ยังได้มีการปรับปรุงอุปกรณ์ดำเนินการของกรีนพีซ โดยเพิ่มลานจอดเฮลิคอปเตอร์ รวมถึงเครนพิเศษสำหรับยกเรือเพื่อใช้ปล่อยเรือสูบลมลงน้ำ