เรืออาร์กติก ซันไรส์ (The Arctic Sunrise)

เรือลำนี้เป็นสิ่งที่ขัดแย้งกัน เนื่องจากก่อนที่กรีนพีซจะได้รับสิทธิในเรืออาร์กติก ซันไรส์ เรือลำนี้เคยเป็นเรือล่าแมวน้ำมาก่อน และก่อนหน้านั้นกรีนพีซยังเคยเผชิญหน้ากับเรือลำนี้มาแล้วในขณะที่กำลังลำเลียงอุปกรณ์ให้กับรัฐบาลฝรั่งเศสเพื่อสร้างทางวิ่งเครื่องบินผ่ากลางถิ่นที่อยู่อาศัยของนกเพนกวินในทวีปแอนตาร์กติกา

ประวัติ

ตัวเรือเป็นทรงกลมที่ไม่มีโครง ดังนั้นเรือลำนี้จึงลอยขึ้นเหนือน้ำแข็งแทนที่จะถูกน้ำแข็งบดขยี้ เมื่อสิ้นพ.ศ. 2539 กรีนพีซได้เตรียมอาร์กติก ซันไรส์เพื่อไปเผชิญกับสภาพน้ำแข็งของทวีปแอนตาร์กติกา

การปฏิบัติการ

อาร์กติก ซันไรส์เริ่มทำงานกับกรีนพีซในการรณรงค์ที่สถานีเก็บน้ำมันเบรนท์ สปาร์ ที่ซึ่งเรือลำนี้ได้ถูกใช้เพื่อยับยั้งการทิ้งอุปกรณ์ติดตั้งสถานีเก็บน้ำมันลงในทะเล

อาร์กติก ซันไรส์ได้กลายเป็นเรือลำแรกที่ได้ออกสำรวจสภาพเกาะเจมส์ รอสในทวีปแอนตาร์กติกา ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นการเดินทางที่เป็นไปไม่ได้ จนกระทั่งก้อนน้ำแข็งใหญ่หนา 200 เมตรที่เชื่อมต่อเกาะเจมส์ รอสเข้ากับแอนตาร์กติกาได้พังทลายลง นี่เป็นเพียงหนึ่งในสัญญาณของภาวะโลกร้อนที่อาร์กติก ซันไรส์ได้ช่วยบันทึกเหตุการณ์เอาไว้

อาร์กติก ซันไรส์ได้กลับไปเยือนแอนตาร์กติกาอีกหลายต่อหลายครั้งเพื่อต่อต้านโครงการนอร์ธสตาร์ของบริษัทบริติช ปิโตรเลียมที่จะเริ่มการขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งซึ่งจะทำให้เกิดการรั่วไหลของน้ำมัน และเป็นภัยคุกคามต่อภูมิภาคอันบอบบางนี้ และยังทำให้ภาวะโลกร้อนย่ำแย่ขึ้นไปอีก

ในมหาสมุทรตอนใต้ เรือลำนี้ได้ประสบความสำเร็จในการขัดขวางความพยายามของญี่ปุ่นในการเดินหน้าสิ่งที่เรียกกันว่าโครงการล่าวาฬ “เพื่อการทดลองทางวิทยาศาสตร์” และได้ขับไล่เรือกะลาสีที่จับปลา ทูธฟิช (Toothfish) อย่างผิดกฎหมายในเขตภูมิภาคพาทาโกเนียไปจนมุมที่ท่าเรือกะลาสีที่ใหญ่ที่สุด ณ หมู่เกาะเมาริเชียส ทวีปแอฟริกา

แม้จะพยายามแล่นเรือหลบหลีกเข้าไปสู่เส้นทางของจรวดมิสซายแต่ก็ไม่สามารถทำให้สหรัฐอเมริกาหยุดเดินหน้าการทดลองระบบป้องกันประเทศด้วยจรวดมิสซายที่ชื่อ สตาร์ วอ โดยขู่ว่าจะจุดชนวนอาวุธนิวเคลียร์ของกองทัพใหม่ทั้งหลาย

โชคดีที่เรืออาร์กติก ซันไรส์รอดพ้นอันตรายมาได้ ทำให้มาบอกกล่าวตำนานแก่เรา จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังอาร์เจนตินาเพื่อเริ่มการเดินทางต่อต้านสารพิษในละติน อเมริกาในพ.ศ.2541

คุณลักษณะ

สถานที่จดทะเบียน: อัมสเตอร์ดัม เนเธอแลนด์
ชื่อเดิม: โพลายอห์น (Polarbjorn)
ปีที่ได้รับกรรมสิทธิ์: 2538
ห้องนอน: 28 ห้อง
เรือเล็ก: เรือโครง 2 ลำ  เรือสูบลม 2 ลำ
ที่จอดเฮลิคอปเตอร์: มี
ประเภท: เรือยอร์ชติดมอร์เตอร์แล่นทะเล
สัญญาณเรียก: PCTK
สร้างเมื่อ: 2518 โดย บริษัท AS Vaagen Verft
น้ำหนักคร่าวๆ : 949 ตัน
ความยาวโดยรวม: 49.62 เมตร
ความกว้าง: 11.50 เมตร
ความเร็วสูงสุด: 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เครื่องยนต์หลัก: MAK 9M452AK 2495 IHP 1619kW
เครื่องยนต์ประกอบ: 2 x Deutz BF6M716 208hp (175 kva)
แรงดันของส่วนหัวและส่วนท้าย: ส่วนละ 400 HP

บันทึกส่วนตัว

อาร์น โยเรนเซน กัปตันของอาร์กติก ซันไรส์ เปิดเผยระหว่างการเดินทางในน่านน้ำตอนใต้ในเดือนธันวาคม 2542 ว่า เรากำลังประท้วงการล่าวาฬอย่างผิดกฎหมายของญี่ปุ่นในมหาสมุทรแถบทวีปแอนตาร์กติกา ในตอนนั้นเราได้ยินเสียงชนดังมากและเรือของเราหมุนอย่างอืดๆ เดวิด เดอ จอง หัวหน้าวิศวกร รีบรุดไปยังหอบังคับการเรือพร้อมตะโกนว่า “นั่นเสียงไม่เหมือนน้ำแข็งเลยนี่” และเขาก็พูดถูก มันไม่ใช้น้ำแข็งในทะเลหรือภูเขาน้ำแข็ง แต่เป็นเรือล่าวาฬแบบมีโรงงานแปรรูปที่ชื่อ นิชชิน มารุ ที่มีน้ำหนักมากกว่าอาร์กติก ซันไรส์ 10 เท่า ที่กระแทกเรือของเรา แม้ว่าลูกเรือทั้ง 2 ลำตกอยู่ในความเสี่ยง แต่โชคดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บ